ทฤษฎี 21 วันคืออะไร เปลี่ยนนิสัยสู่ความสำเร็จได้จริงหรือ?

ทฤษฎี 21 วันคืออะไร เปลี่ยนนิสัยสู่ความสำเร็จได้จริงหรือ?

ทุกคนมี ‘นิสัย’ หรือการกระทำที่คุ้นชินเกิดจากพฤติกรรมการทำซ้ำเป็นประจำ บางครั้งอาจทำแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย วันนี้เราจะพามาดูว่าทฤษฎี 21 วันคืออะไร แล้วตัวคุณเองเชื่อหรือไม่ว่านิสัยสามารถเปลี่ยนได้ถึงแม้จะเปลี่ยนยากก็ตาม ซึ่งทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัยเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่มีชื่อเสียงระดับโลกในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม บางคนเรียกว่าทฤษฎีปรับตัวสู่ความสำเร็จก็มี ซึ่งทฤษฎี 21 วันนี้จะเป็นอย่างไร นอกจากเรื่องนิสัยส่วนตัวแล้วยังประยุกต์กับเรื่องความรักได้หรือไม่ มาค้นหาคำตอบกันเลย

ความหมายของทฤษฎี 21 วันคืออะไร ?

สำหรับทฤษฎี 21 วันคืออะไร ผู้คิดค้น ‘Dr.Maxwell Maltz’ กล่าวว่าเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการกระทำอย่างต่อเนื่องขั้นต่ำ 21 วันอย่างมีสติและความเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้ที่กลายเป็นนิสัย เหมาะกับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ เช่น การงาน ความรัก ครอบครัว

ขั้นตอนการปฏิบัติตามทฤษฎี 21 วันให้มีประสิทธิภาพ

โดยคุณต้องเขียนระบุสิ่งที่ต้องการออกมาทั้งหมดที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลง จากนั้นก็เจาะลึกว่าการกระทำหรือพฤติกรรมใดจะพาคุณไปสู่จุดหมายของแต่ละข้อได้ ต่อมาก็ต้องมีความเชื่ออีกด้วยว่าสามารถเป็นไปได้ ให้ลงมือตามแผนที่วางไว้ตลอดระยะเวลา 21 วัน เมื่อคุณพบว่าทฤษฎีนี้ใช้ได้ผลจริงและทุกอย่างราบรื่นขึ้นจะมีการทำต่อไปอย่างอัตโนมัติ รับรองว่าการงาน ความรักหรือความสัมผัสต่าง ๆ ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืนแน่นอน

การประยุกต์ใช้ทฤษฎี 21 วัน มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ ?

หลังจากเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วว่าทฤษฎี 21 วันคืออะไร เราจะพาคุณมาเริ่มต้นประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำเพื่อให้มีพฤติกรรมที่เฮลตี้มากขึ้นทั้งด้านการใช้ชีวิตและความรัก จะเป็นอย่างไรมาดูพร้อมกันเลย

1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตกับทฤษฎี 21 วัน

มาเริ่มกันที่สิ่งที่ใกล้ตัวคุณมากที่สุดก็คือวิถีชีวิตหรือการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราขอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนแลลงมือทำอย่างต่อเนื่องจนครบ 21 วันดังนี้

  • การตื่นนอนเช้าและนอนตั้งแต่หัวค่ำ

แค่ฟังดูหลายคนก็เกิดอาการท้อขึ้นมาทันที แต่เชื่อเถิดว่าหากทำอย่างต่อเนื่องจนครบวันแล้วมันจะกลายเป็นนาฬิกาชีวิตของคุณแบบอัตโนมัติเลย โดยอาจจะนอนก่อน 5 ทุ่มแล้วตื่นเช้าสัก 7 – 8 โมง ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็คือเวลาที่มากขึ้นในการทำกิจกรรมตอนเช้า โดยเฉพาะการรับประทานอาหารมื้อเช้าที่สำคัญที่สุด การออกกำลังกายหรือตื่นมาแต่งหน้าเลือกเสื้อผ้าแบบไม่ต้องเร่งรีบ หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบก็มีความสุขขึ้นแน่นอน

  • ออกกำลังกายประมาณ 20 – 30 นาที

พฤติกรรมของชาวออฟฟิศหรือผู้ที่ต้องนั่งหน้าจอเป็นระยะเวลานานนอกจากจะทำให้เมื่อยตัวปวดหลังแล้ว ยังเสี่ยงต่ออาการไขมันในเลือกสูงไปด้วย แต่! 21 วันนับจากนี้เราอยากให้คุณลงทุนกับสุขภาพของตัวเอง ลุกขึ้นมาออกกำลังกายอย่างน้อย 20 – 30 นาที เพราะนอกจากจะช่วยให้สลัดเรื่องเครียดในหัวออกไปได้แล้วยังดีต่อสุขภาพไม่น้อย ทั้งช่วยลดความดัน ลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้อีกด้วย หรือใครออกกำลังกายตอนเช้าก็สร้างความกระปรี้กระเปร่าเริ่มต้นวันได้อย่างสดชื่น

  • กินดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เคยได้ยินไหมว่า ‘You are what you eat’ กินแบบไหนก็ได้แบบนั้น แต่พฤติกรรมการกินของชาวไทยก็น่าเป็นห่วงไม่น้อยเพราะของหวาน ของทอด ของมัน รสจัด ต่างได้รับความนิยมสูง และหลายคนไม่ชอบทานผักหรือแม้กระทั่งผลไม้ คุณอาจจะเริ่มต้นจากการลดเมนูอาหารที่สร้างความเสี่ยงเรื่องสุขภาพอย่างชาไข่มุกหรือเมนู Junk Food ลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งนาน ๆ ทานที 

แล้วเพิ่มปริมาณผักหรือผลไม้เข้ามาให้มากขึ้น ใครที่ไม่ชอบกินอาจจะเริ่มจากของง่าย ๆ อย่างข้าวโพด ฟักทอง แคร์รอต เป็นต้น ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมภูมิคุ้มกันแถมยังส่งผลให้ผิวสวยขึ้นอีกด้วย

2. ทฤษฎี 21 วัน จีบเธอ

อีกหนึ่งท็อปปิกที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบันก็คือ การใช้ทฤษฎี 21 วันกับเรื่องความนรัก เชื่อกันว่าหากคุณทักคนที่ปิ๊งและคุยกันถึง 21 วันแล้ว วันที่ 22 เขาจะทักมาเองหากคุณหายไป เพราะความคุ้นชินกับการคุยกันไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าภายในระยะเวลายี่สิบกว่าวันนี้คุณควรทำอย่างไรให้พิชิตใจเธอได้

  • เป็นตัวของตัวเอง

การเป็นตัวของตัวเองไม่จำเป็นต้องเลียนแบบคนที่สาวหรือหนุ่มที่เขาชอบจะดีกว่า เพราะคุณเองก็รู้สึกสบายใจและเป็นในแบบที่หาจากคนอื่นไม่ได้

  • ชวนคุยเรื่อง Positive

แน่นอนว่าไม่มีใครชอบคุยเรื่องลบ ๆ กันไปตลอด ลองหันมาโฟกัสด้านดีและสร้างความสบายใจให้แก่กันจะดีกว่า และควรหยุดพฤติกรรมการตัดพ้อหรือดราม่าแบบไร้เหตุผล เพราะหากเป็นเรื่องราวลบ ๆ แล้วเมื่อไม่ทักไปวันที่ 22 เขาอาจจะดีใจมากกว่าเสียใจก็ได้

  • ใส่ใจและจริงใจ แต่ไม่ยื้อหนัก

มาต่อกันที่การกระทำข้อต่อมา ขอแนะนำให้ชวนคุยเรื่องที่เขาสนใจและเราเองก็ชื่นชอบ แสดงความใส่ใจ แต่ไม่ต้องทักไปบ่อย ๆ ย้ำ ๆ ให้เกิดความรำคาญหรืออย่ารั้งหากเขาไม่ได้ชอบเราจริง ๆ 
คราวนี้ทุกคนก็ได้เข้าใจแล้วว่าทฤษฎี 21 วันคืออะไร และการประยุกต์ใช้มีลักษณะอย่างไร อย่าลืมลองนำไปใช้กันล่ะ รับรองว่าเมื่อตั้งมั่นแล้วจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน

บทความล่าสุด