ใครเคยรู้สึกแบบนี้บ้าง ในบางครั้งชีวิตก็รู้สึกหมดพลัง หมดเรี่ยวแรงไปซะเฉย ๆ รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออาจจะเกิดผลกระทบจากสิ่งรอบข้างโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ เช่น เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว คนรัก หรือแม้แต่จากคนที่เราไม่ได้รู้จัก
10 วิธีที่เราจะกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้
ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่เข้ามารบกวนจิตใจทีละเล็กทีละน้อย จนนาน ๆ เข้าก็เกิดภาวะจิตตก ไม่เชื่อมั่นตัวเอง ไม่มั่นใจตัวเองขึ้นมาซะอย่างนั้น ถึงขนาดว่าส่องกระจกตอนเช้ายังไม่กล้าสบตากับตัวเองในกระจกเลยก็มี แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น แต่เมื่อเป็นแล้ว ก็ต้องตั้งคำถามกลับตัวเองให้ได้ เพื่อดึงให้ตัวของเรากลับมายืนอยู่ในจุดที่เคยเป็นให้ได้นั่นเอง
ที่พูดมาทั้งหมดก็เพียงแต่อยากให้เรากลับมาตั้งสติทบทวนกันให้ดี ๆ ถึงปัญหาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ค่อย ๆ คิด ค่อยปรับ แก้ไปทีละปม คล้าย ๆ การคลายปมเชือก ที่เมื่อคลายปมแรกได้แล้ว เราก็จะคลายปมต่อไปได้ง่ายขึ้น จนกลับมาเป็นเชือกที่พร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง ซึ่งอาจจะเป็นทั้งเรื่องง่ายและเรื่องยากสำหรับบางคน แต่เชื่อเถอะว่า หากเราเคารพตัวเอง เชื่อมั่นตัวเองให้มากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับคืนมา วันนี้จะมาแนะนำ 10 วิธีในการกลับมาเป็นตัวของเราเองกันครับ
1. หาที่สงบ ๆ คิดทบทวนเรื่องตัวเอง
การอยู่กับตัวเองคุยกับตัวเองเงียบ ๆ สักพัก อาจจะเป็นทางออกที่ดีในช่วงแรก ๆ ที่ประสบปัญหา หรือในเวลาที่ขาดความเชื่อมั่น ลองหาที่เงียบ ๆ มุมสงบ ๆ นั่งคิด นั่งทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทำใจให้สบาย ค่อย ๆ คิดอย่างมีเหตุมีผล ปล่อยให้เวลาเดินเล่นไปสักพัก ค่อย ๆ คิดไปช้า ๆ ไม่ต้องเร่งร้อน เพราะเวลาอยู่ข้างเราเสมอ เมื่อสบายใจขึ้นแล้ว ก็กลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง หาคำตอบให้ได้ว่า ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะแก้ปัญหาอย่างไร
2. พูดคุย ปรึกษาคนที่ไว้ใจและรู้จักเรา
อุปสรรคต่าง ๆ บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังกับคนอื่นไม่ได้ เพราะยิ่งหากมีคนรู้มากเข้า เราอาจจะยิ่งสูญเสียกำลังใจมากไปกว่าเดิมก็เป็นได้ หลังใช้เวลาคุยกับตัวเองพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องหาที่ระบายปัญหา หรือหาความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อมาชั่งน้ำหนัก หรือนำมาเปรียบเทียบ และหากต้องบอกเล่าปัญหาของตัวเรากับใคร ก็คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการบอกเล่าปัญหาให้คนใกล้ตัว ครอบครัว หรือเพื่อนสนิทได้รับรู้รับฟัง และช่วยกันหาทางออก
3. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
คำพูดที่ว่า หากร่างกายแข็งแรง หัวใจก็แข็งแรงนั้น เป็นจริงเสมอ ไม่ว่าเราจะมีปัญหากังวลใจอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ควรท่องจำไว้ คือ เราต้องคือ กิน กิน และกิน ไม่ได้หมายถึงกินตลอดเวลานะครับ หมายถึงอย่าอดอาหาร ให้กินอาหารให้ครบตามมื้อ เหมือนที่กินปกติทั่วไปทุกวัน การกินอาหารที่มีประโยชน์มาก ๆ สมองจะได้สดชื่น คิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากกินแล้วก็ควรออกกำลังกาย และพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ด้วยเช่นกัน
4. ดูแลตัวเองให้ดี
หลายคนเมื่ออเริ่มไม่เชื่อมั่นตัวเอง ก็เริ่มที่จะปล่อยปละละเลยตัวเองไปด้วย ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย เป็นการบั่นทอนตัวเองไปเปล่า ๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองดูโทรมลงทุกวัน ๆ เพราะบุคลิกภาพก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างตัวตนของเราให้แข็งแกร่ง ลองลุกขึ้นมาปรับตัวเองด้วยการแต่งตัวในสไตล์ใหม่ ๆ เสื้อผ้าหน้าผมใหม่ ๆ เลือกแบบที่ไม่เหมือนเดิมจะมีสีสันสดใส หรือแนวเอิร์ธโทนรักษ์โลก หรือแบบที่ตัวเราเองชอบ การแต่งตัวเท่ ๆ หล่อ ๆ นอกจากจะช่วยสร้างบุคลิก ยังเป็นการช่วยปลุกพลังในตัวเราให้ตื่นขึ้นมา
5. เดินทางท่องเที่ยว หาประสบการณ์
ว่ากันว่าโลกคือหนังสือเล่มที่ใหญ่ที่สุด การเดินทางไปในที่แปลกใหม่ ค้นหาความหมาย เรียนรู้วัฒนธรรม พูดคุยกับผู้คนแปลกหน้า สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาที่ไหนไม่ได้ การเรียนรู้ผู้คนยังเท่ากับเป็นการเรียนรู้ตัวเองไปด้วย และที่สำคัญการได้เดินทางท่องเที่ยวไปในที่สวย ๆ งาม ๆ ฟ้ากว้างทางโล่ง จะช่วยให้หัวใจของเรากระชุ่มกระชวยขึ้นมานั่นเอง
6. แบ่งเวลาชีวิตให้ถูกต้อง
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสูญเสียตัวตน อาจจะเกิดจากการจมปลักอยู่กับการงานมากเกินไป มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จจนมากเกินไป หรือไม่ก็ทำอะไรสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำ ๆ อยู่เสมอ เราควรลืมความคิดเดิม ๆ เหล่านั้น ลบออกไปให้หมด เพราะเราสามารถตั้งเป้าความสำเร็จในชีวิตไปพร้อม ๆ กันกับทำสิ่งอื่นไปด้วยได้
เพราะโดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์ทุกคนต้องการอิสระในการใช้ชีวิต ในช่วงวันหนึ่ง ๆ เราสามารถแบ่งเวลาทำงาน พักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง หรือออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินได้ การแบ่งตารางเวลาชีวิตที่ดี ยังเป็นการสร้างวินัยให้กับตัวเราเองอีกด้วยนะครับ
7. วางเป้าหมายใหม่
เอาล่ะในเมื่อทบทวนสิ่งต่าง ๆ แล้ว การจะเริ่มต้นใหม่ ก็ควรวางเป้าหมายใหม่กันเสียด้วยเลย การไม่มีเป้าหมายในชีวิต ก็เหมือนการตามหาความหมายของตัวตนแบบไร้ทิศทางนั่นเอง เริ่มต้นจากบันทึกลงในสมาร์ทโฟน หรือจะจดสมุดโน้ตเล็ก ๆ ก็ได้เหมือนกัน
จดเป้าหมายของเราลงไป อาจจะมีทั้งเป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายระยะยาว สิ่งที่ต้องทำในวันนี้ พรุ่งนี้ เดือนนี้ หรือปีนี้ จะจดบันทึกแบบบูโจ ที่กำลังเป็นที่นิยมก็ได้ ในสมุดบันทึกเป้าหมายเราอาจจดลงไปได้หลายอย่าง ทั้งสิ่งที่ต้องทำ Quote หรือคำคมที่ช่วยปลุกพลังชีวิต เอาไว้อ่านปลุกกำลังใจ
8. ไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใคร
แน่นอนว่าการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก ไม่ว่าเราจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือพนักงานออฟฟิศ สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไปไม่ได้คือการถูกเปรียบเทียบ แต่การถูกเปรียบเทียบในการทำงานก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นภาวะปกติที่ต้องยอมรับให้ได้ เพียงแต่ตัวเราเองอย่าเผลอไปเปรียบเทียบกับใคร แล้วเอามาลดทอนความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง เพราะคิดบ่อย ๆ เข้า ความเชื่อมั่นก็จะหายไปทีละน้อย หนัก ๆ เข้าจนไม่กล้าทำอะไรเลยก็มี จำไว้เสมอว่า ไม่มีใครถูกออกแบบมาให้เหมือนกับใคร ทุกคนเอาอย่างคนอื่นในสิ่งที่ดีได้ แต่ก็ต้องเป็นตัวเองให้มากที่สุด
9. ก้มหน้ายอมรับข้อผิดพลาด
เขาบอกว่าคนที่ไม่เคยทำผิดพลาด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย การทำงานหรือแม้แต่การใช้ชีวิตของแต่ละคน ย่อมเกิดเรื่องไม่คาดคิด หรือข้อผิดพลาดได้เป็นธรรมดา เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีอะไรจะสมบูรณ์ไปได้หมดทุกอย่าง เพียงแต่ต้องจำไว้ว่า มนุษย์เราทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่กับข้อผิดพลาดได้โดยปกติ แค่ก้มหน้ายอมรับมัน เพียงแต่เป็นการก้มหน้ายอมรับที่พร้อมจะเงยหน้าขึ้น แก้ไข ปรับปรุง และทำให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
10. สร้างทัศนคติใหม่ ความเชื่อมั่นในตัวเอง
นักปรัชญาเชื่อกันว่ามนุษย์เราทุกคนมีแรงจูงใจด้านบวกอยู่ในตัวเอง และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าเดิมอย่างเต็มความสามารถ การสร้างความเชื่อมั่นอาจฟังดูเป็นนามธรรม แต่ความสำเร็จจะช่วยก่อร่างสร้างตัวให้ความเชื่อมั่นกลายเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้นมาได้ หากเราเรียนรู้และปรับตัวปรับวิธีคิดจาก 9 ข้อด้านบนได้แล้ว เราก็สร้างทัศนคติใหม่บนฐานความเชื่อมั่น และเคารพตัวเองขึ้นมาได้ไม่ยากเลย บางทีวิธีคิดง่าย ๆ แค่ว่าเก่งที่สุด ดีที่สุด ก็เป็นการคิดบวกที่มีพลังงานสูงมากเลยทีเดียว
แม้ว่าการขาดความเชื่อมั่นหรือสูญเสียความมั่นใจจะเกิดขึ้นโดยคนอื่น หรือสิ่งรอบข้าง แต่การจะกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้นั้น มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะพากลับมาอยู่ในจุดเดิม หรือไปในจุดที่ดีกว่าเดิม แม้ว่าปัญหาของแต่ละคนอาจจะหนักเบาไม่เท่ากัน แต่การกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ปัญหาอุปสรรคหรือข้อผิดพลาด เป็นสิ่งที่เราต้องทิ้งไว้ข้างหลัง เหมือนเป็นการก้าวข้ามอดีต เพื่อจะกลับมาอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข และอยู่กับอนาคตที่เป็นความหวัง
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...