คุณเชื่อไหมครับว่า ชีวิตที่ยุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบ สาเหตุพื้นฐานมาจากการไม่ตรงต่อเวลา ซึ่งมันจะค่อย ๆ บ่มเพาะนิสัยแย่ ๆ เกาะกินชีวิตของเราอย่างไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว จนทำให้เรากลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือและท้ายที่สุดพฤติกรรมนั้นอาจทำให้เราผิดนัดสำคัญและก่อให้เกิดความเสียหายกับชีวิตได้อย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
5 ผลเสียของการเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา
เวลาคือโอกาส การไม่ตรงต่อเวลา เปรียบเหมือนการสูญเสียโอกาสไปโดยใช่เหตุ
นั่นแปลว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่าและมีความสำคัญอันดับต้น ๆ ในการดำเนินชีวิตของคนเรา ทั้งในเรื่องของหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว
แต่ทว่าหลายคนก็ปฏิเสธความเชื่อนี้และยังเข้าใจว่าการมาช้าหรือเลทเวลาเป็นเรื่องที่อะลุ่มอล่วยได้ด้วยเหตุผลนานาประการจนทำให้พวกเขากลายเป็นคนนิสัยไม่ตรงต่อเวลา
และที่น่าแปลกก็คือวัฒนธรรมความเป็นอยู่และฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรนับแต่ครั้งอดีตสามารถส่งผลต่อการตรงต่อเวลาของคนในแต่ละประเทศได้
ไม่น่าเชื่อว่าประเทศเขตร้อนอย่างเรามีวัฒนธรรมความไม่ตรงเวลามากกว่าประเทศเขตหนาวอีกด้วย และนั่นคือสาเหตุพื้นฐานสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ตลอดจนรายได้ของประชากรที่สูงหรือต่ำด้วยเช่นกัน
ดูแล้วเรื่องความตรงเวลา หรือ ไม่ตรงต่อเวลา ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วใช่ไหมล่ะครับ เพราะมันดันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ส่งผลชีวิตและลามไปถึงระบบการพัฒนาประเทศได้เลยทีเดียว และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เราลองมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการไม่ตรงเวลากันครับว่ามันจะทำให้ชีวิตเรายุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบได้อย่างไรบ้าง
1. สูญเสียความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
นี่เป็นข้อเสียแรกของการไม่ตรงเวลาที่เราสัมผัสได้โดยตรงจากคนใกล้ชิด ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบรออะไรนาน ๆ การตรงเวลาเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การระลึกถึงมากที่สุด
ขนาดคุณยังไม่ชอบการรอเลย ดังนั้นผู้อื่นก็เช่นกันนั่นเอง การไม่ตรงเวลา
นอกจากจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีก่อเกิดอารมณ์เครียดแล้ว สมองของเรายังทำงานหนักในการหาเหตุผลเพื่อเป็นข้ออ้างของการมาสายซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบ่อยครั้งเข้ามันทำให้ให้คุณกลายเป็นคนไม่ซื่อตรงต่อตัวเอง
การมาสายบ่อยๆจะส่งผลให้คนรอบข้างเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของคุณ…จนส่งผลเสียให้ความสัมพันธ์ที่ดีที่ลดลงไปเรื่อย ๆ ได้อีกด้วย
2. นิสัยเฉื่อย ๆ เนือย ๆ ชอบผัดวันประกันพรุ่ง
ในความคิดของผม นี่คือหนึ่งในข้อเสียของนิสัยไม่ตรงเวลาที่กัดกินชีวิตมากที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ
ความเคยชินของการไม่ตรงเวลาด้วยเหตุผลนานาประการ บ่มเพาะให้เรากลายเป็นคนนิสัยเฉื่อย ๆ เนือย ๆ แบบอะไรก็ได้และรักสบายจนทำให้งานสำคัญตรงหน้าถูกเลื่อนออกไปแบบผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ จนส่งผลเสียต่องานที่ทำ
นอกจากนั้นยังเบียดเบียนเวลาของคนอื่นอย่างเห็นแก่ตัวอีกด้วย เราคงไม่ชอบใจแน่ที่ใครจะมาเบียดเบียนเวลาของเรา ดังนั้น เราก็ไม่ควรเบียดเบียนเวลาของคนอื่นด้วยการไม่ตรงเวลา จริงไหมครับ
ปล. ผมไม่ได้คิดว่านิสัยเฉื่อย ๆ เนือย ๆในชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ถ้าเราเนือยๆ ช้าๆ จนไม่สามารถทำงานได้ตรงเวลาก็จะเริ่มมีปัญหาแล้ว
3. ธุรกิจ-การงานเกิดความเสียหาย
ในเชิงธุรกิจ การมาช้าเพียงเสี้ยวนาทีสามารถสร้างความเสียหายให้กับงานได้อย่างมหาศาล และมันสามารถเปลี่ยนชีวิตเราไปเลยก็ว่าได้
ลองคิดดูสิครับว่า ในนัดประชุมเจรจาธุรกิจที่มีการเซ็นสัญญาโครงการพันล้าน ที่ต้องอาศัยความเด็ดขาดฉับไวในการตัดสินใจและข้อเจรจาที่รัดกุม
เพียงคุณไปสายแค่ 1 นาที คุณอาจทำให้งานนั้นล่มแบบไม่เป็นท่าและมันก็ส่งผลถึงความก้าวหน้าในชีวิตการงานของคุณด้วยเช่นกัน
ถ้าคุณยังมองภาพไม่ออก ลองนึกถึงการล้มของเกมโดมิโนดูสิครับ
4. พลาดโอกาส ขาดความน่าเชื่อถือ
ในการเดินทางไปประชุมนัดสำคัญ หรือ นัดพิเศษกับผู้ใหญ่ที่นับถือ ด้วยระบบขนส่งมวลชน การไม่ตรงเวลาอาจทำให้คุณตกเครื่อง ตกรถ หรือแม้กระทั่งเจอภาวะรถติดและหลงทางได้
ซึ่งมันอาจทำให้คุณพลาดโอกาสดี ๆ ที่รอคุณอยู่อย่างน่าเสียดายได้เลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ถูกมองว่าเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบไปโดยปริยาย แถมยังพ่วงด้วยการลดระดับความน่าเชื่อถือไปพร้อมกันอีกด้วย และนี่คืออีกหนึ่งผลเสียของความไม่ตรงเวลาที่เห็นได้อย่างชัดเจนอีกข้อหนึ่ง ครับ
5. ชีวิตไร้ระเบียบวินัย (เกินไปจะไม่ดี)
ผลเสียการไม่ตรงต่อเวลาตามที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นก็คือ มันทำให้ชีวิตเรายุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบ แถมยังทำให้เราไร้วินัย ขาดการวางแผนที่เป็นระบบ จนทำให้เราออกห่างจากความสำเร็จและความก้าวหน้าทั้งอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัวไปเรื่อย ๆ
นั่นเป็นเพราะว่าทุกการพบปะ ทุกการนัดหมาย คือการให้เกียรติผู้อื่นและตัวของเราเอง ความไม่พร้อมจากการมาสายทำให้คุณต้องเสียเวลาจัดการเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบเสียเวลาเปล่า แถมยังดูไม่เป็นมืออาชีพ ลดทอนความน่าเชื่อถือลงอย่างไร้สาระ
ผลเสียของการไม่ตรงต่อเวลาที่นอกจากจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราแล้ว จุดเล็ก ๆ นี้ ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศอีกด้วย นะครับ
เราเป็นตัวของตัวเองได้ แต่อย่าทำให้คนอื่นลำบาก
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมากล่าวว่าการรักษาเวลามีผลต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งงานวิจัยหลาย ๆ ตัวก็แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น ชนชาติที่ขึ้นชื่อว่าให้ความสำคัญต่อการตรงต่อเวลามากที่สุดจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกสามารถพัฒนาประเทศและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชีย
แม้ญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่สองอย่างสาหัส แถมยังเป็นประเทศที่มีระดับรายได้ของประชากรสูงมากในปัจจุบันอีกด้วย (Levine, 2006)
ในหนังสือชีวิตและงานของ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ท่านหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล ทรงเล่าถึงเสด็จพ่อของท่าน ตอนหนึ่งว่า “การตรงต่อเวลาอย่างหนึ่ง ท่านทรงถือมาก ว่า ผู้ใดไม่ถือเวลาเป็นสำคัญ ผู้นั้นเป็นคนไม่มีหลัก เชื่อถือไม่ได้”
และนั่นคือคติเตือนใจให้เราควรใส่ใจและฝึกตนให้เป็นคนตรงต่อเวลา เพื่อเป็นทางแห่งความสำเร็จและความก้าวหน้าทั้งชีวิตของตนและหลักพื้นฐานที่ดีของการพัฒนาระบบประเทศ
เพื่อน ๆ ทำได้อยู่แล้วครับ เพียงแค่เริ่มเป็นคนตรงเวลา เท่านั้น!
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...