รู้ไหมครับว่า ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญเรื่องวินัยตรงต่อเวลามาก ๆ และถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศและคนญี่ปุ่นจะใช้ความตรงต่อเวลาเพื่อคิดถึงความสะดวกสบายของผู้อื่นก่อน
โดยเฉพาะผู้ที่มีความสำคัญต่อตนเองไม่ว่าจะเป็นทางธุรกิจหรือทางสังคม และนี่ถือว่าเป็นการให้เกียรติกันอย่างวินัยและแน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาอุตสาหกรรมในอันดับต้น ๆ ของโลก และเรื่องความตรงต่อเวลาก็ได้รับมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับของคนทั่วโลก
วิธีการเป็นคนตรงต่อเวลา 6 ขั้นตอน
การตรงต่อเวลา คือการยึดถือตามกำหนดเวลา เป็นลักษณะพิเศษของบุคคลที่แสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบวินัยอันแสดงออกมาในทางพฤติกรรมด้านเวลาที่เที่ยงตรง นำพาไปซึ่งการพัฒนาตนเองในเชิงสร้างสรรค์
นอกจากนั้นแล้ว ความตรงต่อเวลายังเป็นการสะท้อนถึงความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่รับผิดชอบ เคารพสิทธิและให้เกียรติผู้อื่นด้วย
หากใครรีบอยากดูเรื่องวิธีตรงต่อเวลาเลย สามารถกดตรงนี้ได้ แต่หนึ่งสิ่งที่ผมอยากจะให้ทุกคนเข้าใจก่อนก็คือ สาเหตุที่ทำให้เรา ‘ไม่ตรงต่อเวลา’
ต้นตอความต้องการความตรงต่อเวลาในสังคม
วินัยการตรงต่อเวลา นั้นเป็นภารกิจสำคัญที่ควรค่าแก่การปฏิบัติมาก ๆ แต่ก็แน่ละครับ เราเติบโตจากภาคการเกษตรมาตั้งแต่ครั้งโบราณที่ผู้คนจะเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบเดินตามดวงอาทิตย์
วิถีชีวิตแบบเนิบ ๆ จึงค่อนข้างจะมีอิทธิพลต่อเรามาก ๆ และนั่นคือสาเหตุที่หล่อหลอมเราให้มีนิสัยหลงลืม ช้า สาย เลทเวลาไปบ้าง แต่หากปล่อยไว้อาจทำให้ดูเหมือนคนไร้ระเบียบวินัย ขาดวุฒิภาวะ และกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบกันเลยทีเดียว
6 ขั้นตอนเป็นคนตรงต่อเวลา
วัฒนธรรมวิถีชีวิตที่เราเติบโตมาไม่ผิดครับที่หล่อหลอมเราให้เป็นคนเรียบง่ายเพื่ออยู่กับธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในยุคปัจจุบันเราต้องเผชิญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่บนโลกที่กว้างขึ้นและเราก็จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิต
ดังนั้น จะดีกว่าไหม! หากเรามาปรับมายเซ็ตกันใหม่หันมากให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลาให้มากขึ้น และนี่คือวิธีการง่าย ๆ ในการเริ่มต้นพัฒนาตนเองให้เป็นคนตรงต่อเวลาซึ่งผมเชื่อมาก ๆ ครับว่า ทุกคนทำได้ เริ่มจาก
1. เชื่อในนาฬิกาปลุกของคุณ
สิ่งแรกที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ การปรับความคิด หรือ มายเซ็ตของเราก่อนเป็นอันดับแรก เราจะชนะสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้เมื่อเรามีจุดโฟกัสบวกกับความตั้งใจที่แน่วแน่
ดังนั้น การหันมาให้ความสำคัญกับเวลาให้มากขึ้นและเชื่อให้เวลาปลุกที่คุณตั้งไว้ โดยไม่ลังเล คือสิ่งแรกของการบ่มเพาะนิสัยตรงต่อเวลา เชื่อสิครับว่า หากคุณยังนอนต่อเมื่อถึงเวลานาฬิกาปลุกดังเตือน คุณสายแน่ ๆ ในทางกลับกันคุณเท่านั้นที่จะตอบมันได้ ลองดูสิครับ
2.รวมนัดสำคัญและตั้งการแจ้งเตือนไว้ในมือถือ
การโน้ตเตือนความจำเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้เราพลาดการนัดหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว แต่ทว่าการแยกปฏิทินนัดหมายต่าง ๆ ออกจากกัน อาจทำให้คุณสับสนและรับงานซ้ำซ้อนจนเกิดปัญหาได้
ให้จัดการมัดรวมหน้าที่ความรับผิดชอบไว้ในที่เดียวอย่างเป็นระบบด้วยปฏิทินอิเล็กทรอนิกส์ในมือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์และตั้งการแจ้งเตือนไว้ล่วงหน้าจะทำให้คุณค่อย ๆ มีวินัยในเรื่องของเวลาตลอดจนมีชีวิตที่สมาร์ทขึ้นได้อย่างแน่นอน
3. อย่าจัดตารางให้แน่นมากเกินไป
สิ่งที่คุณจะต้องตระหนักอยู่เสมอก็คือ กิจกรรมทุกอย่างล้วนใช้เวลาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวตั้งแต่ตื่นนอนตลอดจนการเดินทางไปตามนัดหมาย การจัดการเวลาที่เหมาะสม จัดของให้เป็นที่เป็นทาง และเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอจะทำให้คุณประหยัดเวลาได้มาก
แน่นอนว่าการจัดการเวลาให้เหมาะสมกับปริมาณภารกิจที่ไม่มากจนเกินไปจะทำให้คุณใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลต่อคุณภาพของงานที่ดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้นอีกด้วย
4.วางแผนล่วงหน้า
การเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอด้วยการวางแผนล่วงหน้า ก่อนถึงการนัดหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสาร การแต่งกาย และสิ่งของที่จำเป็น จะทำให้คุณจัดการเวลาได้ดียิ่งขึ้น
โดยเฉพาะการคำนวณเวลาในการเดินทางและเผื่อเวลาสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ คือวิธีการหนึ่งสำหรับการบ่มเพาะนิสัยตรงต่อเวลาและถือว่าเป็นผู้ช่วยที่ดีมาก ๆ ที่นอกจากจะทำให้คุณไม่สายแล้วยังมีระบบระเบียงแบบแผนขึ้นมากเลยทีเดียว
5.วางแผนนับถอยหลัง
ถ้าเปรียบการวางแผนล่วงหน้าเป็นเตรียมตัวที่ดีเยี่ยม การวางแผนนับถอยหลังก็เปรียบเสมือนการเฝ้าระวังภัยที่ดีด้วยเช่นกัน หากคุณมีนัดหมายเวลา 15.00 น. ลองลงเวลาในปฏิทินนัดหมายเพื่อให้ไปถึงก่อนกำหนดสัก 15 นาทีสำหรับการเตรียมตัว
เช่น 14.45 น. ถึงที่นัดหมาย 14.00 น. ออกเดินทาง และ 13.45 น. เตรียมเอกสาร เป็นต้น
เพราะการเดินทางแต่ละครั้งมันอาจจะไม่ราบรื่นเสมอไป ดังนั้น การวางแผนนับถอยหลังเพื่อป้องกันสิ่งที่ผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการลืมเอกสาร ปัญหารถติด การหลงทาง เป็นต้น
6. สังเกตสาเหตุของการมาสาย
อย่างที่ผมบอกในข้างต้นไปแล้วว่า เราจะชนะสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้เมื่อเรามีจุดโฟกัสบวกกับความตั้งใจที่แน่วแน่ และผมขอย้ำว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ครับ
ยิ่งหากเราปรับความคิดให้เรื่องการมาสายเป็นเรื่องที่น่าละอายด้วยแล้ว เราก็จะไม่กล้าที่เลทหรือช้าเลยทีเดียว ดังนั้น การคอยถามตัวเองอยู่เสมอว่า “ทำไมเราถึงได้มาสาย ช้า หรือเลท กันน่ะ” จะทำให้เราเข้าใจถึงต้นตอของสาเหตุได้ดีและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองในหลาย ๆ เรื่องได้เพื่อลดนิสัยดังกล่าวและกลายเป็นคนมีวินัยตรงต่อเวลามากขึ้น
ข้อแนะนำสุดท้ายของการมาสาย
และนี่คือ 6 วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณชนะตัวเองในเรื่องของการมาสายและกลายเป็นคนมีวินัยตรงต่อเวลาที่มากยิ่งขึ้น แน่นอนครับว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลยที่เราจะทำได้ แต่ความยากของมันอยู่ตรงที่ การเริ่มต้น!
คุณต้องถามตัวเองแล้วละครับว่าคุณจะเอาชนะมันไหมหรือจะยอมแพ้กับเรื่องแย่ ๆ เหล่านี้ จุดเริ่มต้นของนิสัยตรงต่อเวลามันก็เหมือนกับการออกกำลังกายเมื่อคุณเริ่มสตาร์ทสิ่งที่ได้คือสุขภาพที่ดี วินัยตรงต่อเวลาก็เช่นกันเมื่อคุณเริ่มทำ สิ่งที่ได้รับมากที่สุดก็คือการเคารพตนเองเพื่อให้เกียรติผู้อื่น เพราะเวลาเป็นสิ่งมีค่า และ “สิ่งหนึ่งที่คุณไม่อาจรีไซเคิลได้ คือเวลาที่เสียไป” ฮาโรลด์ วี.เมลเชิร์ต
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...