คุณอยู่ได้หรือเปล่าถ้าไม่ได้กินข้าว?
แต่ถ้าคุณตอบว่าอยู่ไม่ได้ คุณคิดว่า ใจของคุณจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่มีอะไรมาเติมเต็มเลย
ผมคิดว่ากำลังใจก็คือพลังงานที่สำคัญอย่างหนึ่ง เป็นเหมือนน้ำมันของเครื่องยนต์ที่ช่วยให้คนขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ในภาษาอังกฤษอาจจะจำแนกคำว่ากำลังใจว่าเป็น mental energy อย่างหนึ่ง
ซึ่งกำลังใจอาจจะมาจากคำชม การช่วยเหลือ หรือรางวัลต่างๆ ที่เราได้จากคนรอบข้าง เพื่อที่จะทำให้เรามีความกระตือรือร้นมากขึ้นในการทำหน้าที่ประจำวันของเรา หรือเริ่มทำอะไรใหม่ๆเพื่อที่จะทำให้เป้าหมายแล้วเป็นจริง
กำลังใจสำคัญอย่างไร
กำลังใจสำคัญเพราะ มันเป็นพลังงานที่ช่วยให้เรามีความกระตือรือร้นขึ้น ในชีวิตคนเราไม่ว่าใครก็มีช่วงที่ล้มหรือเศร้าได้กันทั้งนั้น และการได้กำลังใจจากคนรอบข้างก็จะช่วยให้เรามีแรงเพื่อที่จะลงมือทำอะไรใหม่ๆหรือกลับมาเริ่มทำอะไรซ้ำได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราอาจจะได้มาจากคำชมหรือไมตรีจากคนรอบข้างก็ได้
หากเราย้อนมองกลับไปตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นเด็กหัดเดิน สิ่งที่พ่อแม่ทำก็คือให้คำชมรางวัลทุกครั้งที่เราสามารถทำอะไรใหม่ๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การเริ่มกินผัก หรือการสอบเข้าโรงเรียนได้
ผมคิดว่าคนบางคนสามารถสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้ ถ้าเขาเป็นคนที่มีความอยากรู้อยากเห็นหรือมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว แต่เป้าหมายในชีวิตหรือความอยากรู้อยากเห็นพวกนี้มันก็จำกัดแค่ในวงแคบๆใช่ไหมครับ
ไม่ใช่ทุกคนที่มีความอยากรู้อยากเห็นกระตือรือร้นที่จะทำโจทย์ฟิสิกส์ หรือเริ่มธุรกิจใหม่ๆที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน บางครั้งเราก็เข้าใจว่างานที่อยู่ข้างหน้ามันสำคัญ แต่มันก็คงเหมือนกับการพยายามจะวิ่งมาราธอนโดยไม่ได้กินข้าวมาก่อน ต่อให้งานข้างหน้าสำคัญแค่ไหน ถ้าเราไม่มีพลังใจมากพอก็อาจจะทำมันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
สิ่งที่เกิดขึ้นถ้าเราไม่มีกำลังใจ
ความสำคัญของกำลังใจมีมากกว่าแค่ในเชิงจิตวิทยา มันคือสิ่งที่แพทย์ได้พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ
มีหลายบทความวิจัยได้เขียนไว้ว่ากำลังใจเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดกำลังกาย ยกตัวอย่างเช่นการที่ผู้ป่วยที่ดูเหมือนจะไม่สามารถรักษาได้แล้ว กลับฟื้นขึ้นมาได้เพราะมีคนรอบข้างคอยให้กำลัง
ในทางกลับกันถ้าเราไม่มีกำลังใจร่างกายเราก็อาจจะเริ่มไม่แข็งแรงตามด้วยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นคนที่เครียดมากๆ หรือคนที่รู้สึกเศร้าสิ้นหวัง ก็จะรู้สึกป่วยง่ายภูมิต้านทานต่ำเป็นต้น
กำลังใจอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วยซ้ำ สังเกตได้ว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่ให้กำลังใจดี จะเป็นเด็กที่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ และไม่กลัวการล้มเหลวมากเอาเด็กกลุ่มอื่น ในทางตรงข้ามเด็กที่ไม่ได้รับกำลังใจเลยหรือเด็กที่ถูกต่อว่าเยอะๆเวลาทำอะไรผิด ก็จะต่อมาเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าออกนอก Comfort Zone ตัวเองเท่าไหร่
ถ้าคุณรู้ว่ากำลังใจสำคัญแค่ไหน ทีนี้ต้องมาดูกันว่าเราจะสามารถสร้างกำลังใจได้ยังไง
กำลังใจของคุณคืออะไร
แล้วกำลังใจของคุณคืออะไรหรือมาจากไหนกัน
คนส่วนมากจะได้กำลังใจมาจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือแม้แต่คนที่เขาชื่นชมก็ตาม
ผมคิดว่าความพิเศษของคำว่ากำลังใจก็คือ มันเป็นสิ่งที่คุณให้คนอื่นได้โดยที่คุณแทบจะไม่เสียอะไรเลย เพราะบางทีแค่คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำให้คนรอบข้างสู้ต่อไปได้แล้ว
การให้กำลังใจคนอื่นหรือทำอะไรเพื่อคนอื่นอาจจะทำให้คุณรู้สึกดีมากขึ้นด้วยก็ได้ ซึ่งก็จะเป็นการเติมกำลังใจให้ตัวเองอย่างหนึ่ง ภาษาธุรกิจคงเค้าเรียกว่า WIN-WIN
ทุกคนมีความชอบที่แตกต่างกัน อาจจะได้กำลังใจมาจากคำชมหรือคำยอมรับ บางคนอาจจะได้กำลังใจมาจากเวลาที่ได้ใช้กับคนที่ตัวเองรัก บางคนอาจจะได้กำลังใจมาจากของรางวัลต่างๆ หรือบางคนอาจจะได้กำลังใจจากการสัมผัสก็ได้ ทุกคนมีนิยามของกำลังใจไม่เหมือนกัน
ถ้าเราเข้าใจตัวเองว่าเราต้องการกำลังใจแบบไหน เราก็จะสามารถสื่อสารกับคนรอบข้างหรือคนรักได้ดีขึ้นครับ หรือถ้าเราเข้าใจว่าคนรอบข้างเราอยากกำลังใจแบบไหน ความสัมพันธ์ของเราก็จะดียิ่งขึ้นเช่นกัน
แน่นอนว่าระบบที่มีประสิทธิภาพที่สุด ก็คือการที่เราสามารถสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้
การสร้างกำลังใจให้ตัวเอง
บางครั้งเราก็อาจจะต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเอง แต่เราจะเริ่มยังไงดี?
วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองเริ่มจากการทำความเข้าใจก่อน
เราอยากได้กำลังใจแบบไหน?
เรามีความสุขกับการทำอะไร?
เรามีเป้าหมายในชีวิตหรือเปล่า?
ผมคิดว่าถ้าคุณสามารถตอบคำถามพวกนี้ได้ ชีวิตก็จะง่ายขึ้นเยอะครับเพราะขั้นตอนต่อไปก็คือแค่การหาเวลามาสนองคำตอบเราแค่นั้นเอง
แต่ถ้าสิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ทำให้คุณมีกำลังใจมากขึ้น ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเลิกทำมันนะครับ สิ่งที่เราชอบก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่หน้าที่ในชีวิตเราก็ไม่ควรจะละทิ้งมัน
คุณอาจจะต้องหาเวลาเติมพลังใจให้ตัวเอง ด้วยการทำสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข อาจจะช่วงที่คุณมีเวลาว่างหรือวันหยุด ให้เริ่มจัดการทำกิจกรรมให้ตัวเองชอบก่อนเล็กๆน้อยๆ อาจจะเป็นการหาอะไรที่ตัวเองชอบกินก็ได้ การเก็บเกี่ยวความสุขไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็ถือว่าเป็นการเติมกำลังใจให้ตัวเอง
ถ้าเราต้องการกำลังใจแปลว่าเราอ่อนแอไหม?
ผมคิดว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ผิด มนุษย์ทุกคนมีช่วงที่อ่อนแอและเข้มแข็งอยู่แล้ว
การรู้สึกอ่อนแอไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผิดหรือเรื่องน่าอาย
ในทางกลับกันผมคิดว่าถ้าเรารู้ตัวเองยอมรับตัวเองได้ว่าสิ่งไหนทำให้เรารู้สึกขาดกำลังใจ และสิ่งไหนเป็นตัวเติมเต็มกำลังใจให้เรา นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความเข้มแข็งของอารมณ์ ที่คนบอกว่า EQ สูงนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในฐานะมนุษย์ที่มีภาระในชีวิต การที่เรายอมรับว่าตัวเองอ่อนแอ ไม่ได้แปลว่าเราต้องเลิกแบกรับภาระหรือเลิกพยายามที่จะทำให้ตัวเองเข้มแข็งมากขึ้น เราอาจจะรู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่เราทำอยู่ปัจจุบัน แต่เราก็หาวิธีเติมกำลังใจให้ตัวเองได้เรื่อยๆ และนำกำลังใจนั้นมาเป็นพลังงานผลักดันตัวเราให้หาวิธีแก้ปัญหาข้างหน้าอีกทีหนึ่ง
ผมคิดว่าหากเราเริ่มรู้สึกว่าช่วงนี้เราขาดกำลังใจบ่อยหรือรู้สึกอ่อนแอบ่อย ให้ลองเปลี่ยนวิธีการทำอะไรใหม่ๆดูครับ อาจจะเป็นการเริ่มช่วยเหลือคนอื่น หาเวลาว่างมาทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ หรือหนีไปเที่ยวซักพักหนึ่งก็ได้ครับ
ไม่ทราบว่าทุกคนเห็นด้วยกับบทความนี้ของผมไหมครับ แล้วแต่ละคนมีวิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้ยังไงบ้าง หรือประทับใจกับการให้กำลังใจของใครเป็นพิเศษบ้างไหม สามารถแชร์ได้ในคอมเม้นนะครับ
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...