ความสุขใจคืออะไร? วิธีหาความสุขใจในแบบของคุณ

ความสุขใจคืออะไร? วิธีหาความสุขใจในแบบของคุณ

ทุกคนในโลกนี้ต่างก็ต้องการค้นหาความสุขใจในแบบของตัวเอง ไม่มีผู้ใดที่อยากใช้ชีวิตโดยปราศจากความสุข เพราะทุกช่วงวัยของคนเราก็ปรารถนาที่จะให้ตัวเองได้รับความรู้สึกดีๆ ต่อตัวเองและคนอื่น

จึงเป็นเรื่องธรรมดาถ้าหากว่าในหนึ่งอาทิตย์นั้นบางวันคุณจะเจอกับความรู้สึกดีใจ พอใจ ไม่ชอบใจ หรือมีความสุข แต่แท้จริงแล้วความสุขที่มันเกิดขึ้นนั้นเรารู้หรือไม่ว่ามันเกิดขึ้นได้ เพราะผู้อื่นมอบให้แก่เรา หรือเราสามารถค้นพบกับความสุขใจได้ด้วยตัวเอง และก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าความสุขใจแท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่

ความสุขใจคืออะไร

ความสุขใจ (Happiness) หมายถึง ผลลัพธ์ของความรู้สึกที่ตัวเองรู้สึกชื่นชอบ หรือพึงพอใจกับอะไรบางอย่างในชีวิต ความสุขเป็นสิ่งที่ใช้ล่อเลี้ยงจิตใจภายในของเราให้เกิดความรู้สึกที่ดีในแต่ละวัน ไม่มีความรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือความรู้สึกขัดใจใดๆ

ทุกคนต่างก็อยากมีความสุข เพราะความสุขส่งผลทำให้มีพลังงานที่ดีเกิดขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าชีวิตยังมีสิ่งดีๆ ที่รอให้เราประสบพบเจออีกมากมาย และสามารถที่จะใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมได้อย่างราบรื่น

อะไรทำให้เรามีความสุข

หลายคนก็คงเคยสงสัยว่า แล้วอะไรบ้างที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ และถ้าหากอยากจะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่มีความสุขได้ จะต้องทำตัวอย่างไรบ้าง

#1 การเคารพและเห็นคุณค่าในตัวเอง

คุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอ ไม่เก่งพอ หรือไม่มีความมั่นใจที่จะทำอะไรสักอย่าง และคอยโทษตัวเองตลอดเวลาหไหม?

หากความคิดเหล่านี้ทำให้ตัวคุณเองเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี และส่งผลเสียกับตัวคุณอย่างมาก

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขกับชีวิตเลย เพราะขนาดตัวเองคุณเองยังไม่สามารถที่จะเคารพและให้เกียรติตัวเองได้เลย แถมยังหาขออ้างสารพัดมาใส่ร้ายตัวเอง โดยเลือกที่จะมองข้ามคุณค่าที่ดีในตัวเอง ดังนั้น หากเราเริ่มรู้จักที่จะเคารพและเห็นคุณค่าในตัวเองได้ก่อนเป็นอันดับแรก ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

#2 การคิดบวก หรือการมองโลกในแง่ดี

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บ่งบอกว่าการคิดบวก หรือการมองโลกในแง่ดีนั้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานด้วย ดังนั้น คนที่มองโลกในแง่ดีมักจะเป็นคนที่มีกำลังกาย กำลังใจ และความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงานที่น่าประทับใจอยู่เสมอ

นั่นยิ่งทำให้คนที่คิดบวก หรือมองโลกในแง่ดีมักจะมองเห็นถึงความสุข ความสนุกสนานมากมายที่โลกใบนี้ได้มอบให้อยู่เสมอ

ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น คนเหล่านี้ก็จะพยายามมองหาข้อดีในสิ่งนั้น และให้ความสำคัญกับมัน เพื่อพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หรือนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาต่อไป แทนที่จะมัวไปให้ความสำคัญแต่ปัญหาจนไม่สามารถหาทางออกได้ จึงไม่แปลกที่คนเหล่านี้มักจะมีความสุขอยู่เสมอ แม้ในบางสถานการณ์ที่คนอื่นๆ อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะทำให้มีความสุขได้ก็ตาม

#3 การได้รับความรักจากผู้อื่น

การที่เราได้รับความรักจากผู้อื่นก็เปรียบเสมือนกับต้นไม้ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตและมีชีวิตต่อไปได้ และคนที่ไม่ได้รับความรักก็เปรียบเสมือนกับต้นไม้ที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ และค่อยๆ เหี่ยวเฉารอวันตายไปทีละนิด ดังนั้น การได้รับความรักจากผู้อื่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มหัวใจของเราให้สามารถกลับมามีชีวิตชีวา และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกครั้ง

#4 การหัวเราะ

ถือว่าเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้คนเรามีความสุขได้ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากนักวิจัยทั้งทางด้านการแพทย์และด้านจิตวิทยาที่ทั้งเห็นพ้องต้องกันว่าการหัวเราะนั้นมีประโยชน์ เนื่องจากการหัวเราะจะทำให้ร่างกายหลั่งสารชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการเจ็บปวดบางอย่าง และยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นการหัวเราะคิกคักเล็กๆ น้อยๆ หรือการหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ก็ตาม ก็จะทำให้เรารู้สึกดีและมีความสุขได้ในทุกครั้งที่หัวเราะ

แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของกาลเทศะด้วย อย่าไปหัวเราะผิดที่ผิดเวลา เพราะอาจจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนเอาไป ดังนั้นให้คิดไว้เสมอว่าอย่าพยายามไปคาดหวังอะไรที่เกินตัวโดยไม่จำเป็น หรือจริงจังกับชีวิตมากเกินไป พยายามหัวเราะให้กับสิ่งรอบตัว แล้วความสุขจะเกิดขึ้นกับเราเอง

วิธีหาความสุขใจในแบบของคุณ

#1 การไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

เชื่อว่าหลายคนก็คงเคยคิดว่าตัวเองเก่งไม่เท่าคนนั้น หน้าตาไม่ดีเหมือนคนโน้น หรือเกิดมามีฐานะทางการเงินที่ไม่ร่ำรวยเท่าคนนี้ พอคิดแบบนี้แล้ว ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าทำไมโลกใบนี้ถึงไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย แล้วแบบนี้เราจะมีความสุขได้อย่างไรกัน

อยากให้ลองถามตัวเองใหม่ว่าที่ตัวเองไม่มีความสุขทุกวันนี้เป็นเพราะโลกใบนี้มันไม่ยุติธรรมจริงๆ อย่างนั้นหรือ หรือเพียงเพราะแค่คุณมีความรู้สึกอิจฉาที่เกิดจากการเปรียบเทียบสิ่งที่คนอื่นมี แต่ตัวเองดันไม่มี หรือมีความคิดว่า สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ดีเท่ากับของคนอื่น

เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ในใจ ก็ยากที่จะมีความสุขในสิ่งที่ตัวเองมี และต่อให้สามารถมีทุกคนเหมือนกับคนๆ หนึ่งได้ เดี๋ยวเราก็จะต้องเจอคนที่เหนือกว่าเราในหลายๆ ด้านปรากฏตัวขึ้นมาอีกเรื่อยๆ กลายเป็นวังวนความทุกข์ที่เกิดจากการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่จบไม่สิ้น

ดังนั้น การเลือกที่จะไม่นำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จึงเป็นการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองมี และสิ่งที่ตัวเองเป็น เมื่อสามารถยอมรับในความเป็นตัวเองได้แล้ว ก็สามารถมีความสุขได้ด้วยการเป็นตัวของตัวเอง โดยไม่ต้องสนใจเสียงแง่ลบของคนอื่นๆ

#2 การค้นหาสิ่งที่ชอบ และลงมือทำในสิ่งนั้น

การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อาจเรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ เพราะการที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่เรารักในทุกๆ วัน มันย่อมทำให้เราสามารถรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน และมีความสุขใจได้ในแบบของเราเอง และคนที่รู้ว่าตัวเองชื่นชอบอะไร หรือรักในสิ่งไหน แล้วได้ทำในสิ่งที่รัก ก็คือคนที่โชคดีที่สุด

แต่สำหรับบางคนที่ยังค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบไม่เจอก็ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้อาจต้องออกไปหาประสบการณ์ต่างๆ เพิ่มเติม และให้เวลากับตัวเองมากขึ้นสักหน่อย เพราะบางครั้งการที่เราค้นหาตัวเองไม่พบ อาจเป็นเพราะเรามัวไปเสียเวลากับเรื่องของคนรอบข้างเยอะเกินไป จนลืมคิดถึงเรื่องของตัวเอง เนื่องจากเราไม่เคยหาเวลาที่จะคุยกับตัวเองอย่างจริงจังบ้างเสียที

ดังนั้น ให้ลองหาเวลาที่จะอยู่กับตัวเอง ตั้งสมาธิแล้วลองถามตัวเองดูว่า เรานั้นกำลังทำอะไรอยู่ เก่งเรื่องอะไร อยากทำอะไร และมีเป้าหมายอะไรในชีวิต ฯลฯ มันก็จะค่อยๆ ทำให้เราสามารถประมวลความคิดได้ว่า เราอยากทำอะไรกันแน่

ซึ่งสุดท้ายแล้วหากคุณสามารถที่จะค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบได้เจอ คุณอาจจะรู้สึกใจอย่างมากก็ได้ เพราะว่ามันอยู่รอบๆ ตัว หรือภายในตัวคุณเอง เช่น คุณอาจจะพบว่าความสุขของคุณ ก็คือ การที่ได้มีสัตว์ที่น่ารักไว้สักตัว แล้วคุณก็แค่อยากจะเลี้ยงดูมันด้วยความรักก็ได้

#3 การใช้เวลากับคนที่เรารัก

ผมกำลังหมายถึงการใช้เวลากับคนที่เรารัก และอีกฝ่ายก็ต้องเป็นที่รักเราด้วยเช่นกัน ทุกคนก็ล้วนมีคนที่ตัวเองรัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง คนรัก สมาชิกในครอบครัว หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของตัวเองก็ตาม

เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ ทำให้เกิดเป็นความผูกพันและห่วงใยกันมากขึ้น จนเกิดเป็นความรู้สึกที่อยากใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น และเมื่อได้เจอกันแล้วใช้เวลาทำกิจกรรมด้วยกัน ก็ย่อมทำให้เกิดความสุขใจตามมาโดยอัตโนมัติ

ซึ่งหากบางคนเป็นคนที่มีเพื่อนฝูงน้อย หรือยังไม่มีคนรู้ใจเคียงข้าง ก็ไม่เป็นไร คุณก็ยังมีพ่อแม่ หรือคนในครอบครัว ที่พร้อมจะใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันกับคุณเสมอ ในโลกยุคปัจจุบันแม้ว่าจะอยู่คนละซีกโลกกันผู้คนก็สามารถเห็นหน้า และพูดคุยกัน ผ่านหน้าจอบนสมาร์ทโฟนได้แล้ว จึงยิ่งทำให้สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อน

และถ้าคุณเป็นคนที่รักสัตว์ คุณก็สามารถใช้เวลาแห่งความสุขนี้กับสัตว์เลี้ยงของคุณได้เช่นกัน

ผมเคยมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ด้วยความรัก เขามักจะใช้เวลาว่างคุยกับแฮมสเตอร์ของเขาอย่างมีความสุข เล่าเรื่องที่ตัวเองพบเจอในแต่ละวัน คอยสอนให้ทำโน่นทำนี่ หรือสร้างบ้านให้มัน ดูแลเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง

แต่สุดท้ายมันก็ไม่สนใจอะไร เขาก็ได้แต่หัวเราะด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงของหนูตัวนั้น ฟังดูมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคน หรือ สัตว์เลี้ยง หากเรามีความรักมอบให้ แล้วเราได้รับการตอบสนองที่สามารถเติมเต็มหัวใจของเราได้ ก็จะทำให้เรามีความสุขใจเกิดขึ้นได้

จะสังเกตได้ว่า คนที่มีความสุขมักจะสร้าง และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนในสังคม รวมถึงเพื่อนและคนในครอบครัว และอย่าลืมที่จะเคารพและมองหาคุณค่าในตัวเอง พยายามคิดบวกโดยการมองโลกในแง่ดี แค่นี้ก็จะทำให้เกิดความสุขใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว

สุดท้ายนี้เราก็ควรออกไปใช้ชีวิต และทำทุกช่วงเวลาของชีวิตให้เต็มที่ ชีวิตคนเรามันสั้น อย่าเสียเวลาไปกับการบาดหมาง หรือการขัดแย้งกับคนอื่นๆ โดยไม่จำเป็นเลย มันไม่มีทางลัดใดๆ ที่นำไปสู่ชีวิตที่ดีได้ แต่เราสามารถค่อยๆ สร้างมันขึ้นมาได้ด้วยแรงกายและแรงใจของตัวเอง ในที่สุดเราก็จะค้นพบความสุขที่ตามหาอย่างแน่นอน

บทความล่าสุด