ทำอย่างไรให้มีสติตลอดเวลา? 7 เทคนิคให้คุณมีสติตลอดเวลา

ทำอย่างไรให้มีสติตลอดเวลา? 7 เทคนิคให้คุณมีสติตลอดเวลา

การมีสติคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรทำไมต้องพยายามทำให้มีสติอยู่ตลอดเวลาด้วย? “สติ” คือ การรู้สึกตัว นึกขึ้นได้ ฉุกคิดขึ้นได้ หรือว่าความไม่เผลอนั่นเอง 

ส่วนความสำคัญของสติก็เพื่อมีไว้เป็นเครื่องเตือนใจ เราจะได้ไม่หวั่นไหวไปกับอารมณ์ได้ง่าย ๆ จะเรียกว่าสติเป็นตัวหยุดเราจากอารมณ์ที่รุนแรง หรือหยุดเราจากการขาดความยับยั้งชั่งใจก็ได้ แล้วมันก็ทำให้เรามีความสมเหตุสมผลในการตัดสินใจมากขึ้น ไม่ถูกชักจูงได้โดยง่าย มีเวลาคิดก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เป็นผลดีลงไป นอกจากนี้สติยังสามารถลดความเครียด และความวิตกกังวล ทำให้การนอนหลับพักผ่อนดีขึ้นได้ด้วย 

มาถึงส่วนสำคัญที่สุดที่ผมอยากจะบอก ซึ่งมันก็คือ “7 เทคนิค ที่จะช่วยให้คุณมีสติอยู่ตลอดเวลา” มันจะยาก จะง่ายขนาดไหน มาดูเทคนิคแรกกันเลย 

7 เทคนิคให้คุณมีสติตลอดเวลา

เทคนิคที่ 1 เรียกสติโดยการใช้เสียงแจ้งเตือน

การใช้เสียงเรียกสติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ หรือว่าจะเป็นเสียงนาฬิกาปลุก ลองตั้งเป็นคาบเวลาเอาไว้เพื่อให้เกิดเสียงเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตั้งให้มีเสียงนาฬิกาปลุกทุก 45 นาที  จากนั้นเมื่อได้ยินเสียง หยุดทำกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ แล้วนับ 1-4 ในใจแล้วค่อยทำกิจกรรมที่ทำค้างไว้ต่อ แค่นี้ก็ช่วยเรียกสติของคุณได้บ่อย ๆ ทำให้คุณมีสติอยู่ตลอดเวลาแล้ว 

เทคนิคที่ 2 เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการนั่งสมาธิ

ต้องยอมรับว่าการนั่งสมาธิเป็นการฝึกสติที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก  ถ้ายังไม่เชื่อต้องลองไปดูพวก “day in the lift…” ของยูทูเบอร์ดัง ๆซึ่งไม่ว่าจะไทย หรือเทศก็มักจะมีการนั่งสมาธิเป็นการเริ่มต้นกิจวัตรในตอนเช้าของพวกเขาด้วย  แสดงให้เห็นว่าการนั่งสมาธิเพื่อเรียกสติเนี่ย มันเวิร์คมาก ๆ

วิธีการก็ไม่ยากครับ ในหนึ่งวันลองหาเวลาว่างซักอย่างน้อย ๆ 5 นาทีมาให้ได้ แล้วนั่งสมาธิ พร้อม ๆกับเปิดเพลงที่คุณฟังแล้วสบายใจไปด้วย  การทำแบบนี้จะเป็นเหมือนการรีเซ็ตเรื่องยุ่งเหยิงที่อยู่ในหัวเราออกไป เป็นการเรียกสติของคุณกลับมาให้เข้าที่เข้าทาง ทำให้คุณสามารถโฟกัสกับงานได้มากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานนี่ไม่ต้องพูดถึง มันต้องพุ่งกระฉูดขึ้นแน่นอน 

เทคนิคที่ 3 สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสิ่งรบกวน

สภาพแวดล้อมเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณมีสมาธิ และมีสติมากขึ้นได้ ในกรณีที่คุณยังสามารถจัดการกับสภาพแวดล้อมได้ พยายามพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มันไม่มีสิ่งรบกวนให้ได้

หรืออย่างน้อย ๆ ตอนที่กำลังทำอะไรที่ต้องใช้สติ และสมาธิสูง ๆ อย่างงานนำเสนองานไม่ว่าจะอยู่ในที่ทำงาน หรือ work from home ก็ปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆจากโทรศัพท์ไว้ แล้วค่อยไปไล่อ่านแจ้งเตือนเหล่านั้น ตอนที่คุณทำสิ่งที่ตั้งใจไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

การทำแบบนี้จะทำให้คุณมีสติอยู่กับเรื่องสำคัญที่กำลังทำอยู่ตลอดเวลา และเพ่งสติรวมถึงสมาธิไปกับมันได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรเข้ามารบกวน

เทคนิคที่ 4 จดจ่อกับงานเพียงอย่างเดียวจะทำให้คุณมีสติมากกว่า

ข้อนี้อาจจะไม่ถูกใจคนที่ชอบทำงานหลาย ๆอย่างไปพร้อมกัน เพราะมันทำให้รู้สึกว่าคุณมีความสามารถ แต่ในความจริงแล้ว จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแสตนด์ฟอร์ดพบว่า การที่เราทำหลาย ๆอย่างพร้อมกันนั้น แท้จริงแล้วมันเกิดประโยชน์น้อยกว่าการทำทีละอย่างซะอีก

และยังมีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแฮมส์ตันที่พบว่า การทำหลายอย่างพร้อมกันจะเหนี่ยวนำอารมณ์ด้านลบ อย่างพวกความเครียดมาหาคุณ จากงานวิจัยเหล่านี้ ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าเราทำงานกันไปทีละอย่างจะเกิดประโยชน์สูงกว่า สามารถโฟกัสกับงานได้เต็มที่ เพ่งสติ และสมาธิไปที่งานนั้นอย่างเดียว รับรองประสิทธิภาพการทำงานต้องดีขึ้นมากเลยหละ 

เทคนิคที่ 5 เรียกสติโดยการเขียน

ส่วนนี้เป็นเทคนิคยอดนิยมในระดับการศึกษา แต่ผมอยากจะบอกว่ามันเป็นเทคนิคที่เหมาะกับเรา ๆทุกคน เวลาที่คุณสับสน งุนงง รู้สึกว่าคิดอะไรไม่ออกเลย ลองเขียนสิ่งที่อยู่ในหัวลงไปก่อน การทำแบบนี้จะเป็นการเรียกสติของคุณกลับมา ให้คุณกลับมาอยู่ที่ปัจจุบัน ตอนนั้นแหละที่ความสับสนวุ่นวายจะหายไป และคุณจะรู้ว่าควรทำอะไรต่อไป 

เทคนิคที่ 6 เรียกสติจากการหยุดไตร่ตรอง

ข้อนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการเรียกสติเลยก็ว่าได้ เวลาที่อารมณ์เรากำลังไปไกล การคิดอะไรต่าง ๆกำลังจะไหลไปตามอารมณ์ คิดว่ามันถูกต้อง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน และความรู้สึกต่าง ๆที่ประเดประดังเข้า

ถึงจุดนี้ผมอยากให้ลองหยุดทุกอย่างลงก่อน  เริ่มนับ 1-10 ในใจแล้วจากนั้นก็ค่อย ๆคิด ค่อย ๆไตร่ตรองเรื่องราวที่มันกำลังเกิดขึ้น ทำให้ตัวเองใจเย็นลงอีกหน่อย แล้วค่อยลุยต่อ แบบนั้นจะดีกว่าการลุยทั้งที่อารมณ์กำลังนำทุกอย่างอยู่ แล้วอีกอย่างถ้าทำแบบนี้ทุกครั้งที่คุณรู้สึกว่าเริ่มสติหลุด มันก็จะช่วยดึงสติของคุณกลับมาได้ตลอดเวลาเลย

เทคนิคที่ 7 เรียกสติจากการจัดลำดับความสำคัญ

ข้อนี้เป็นเทคนิคที่เรียกได้ว่าทำวันนี้ เพื่อการรักษาสภาพสติในวันพรุ่งนี้ของคุณ แล้วขณะที่คุณวางแผนกิจกรรมต่าง ๆคุณก็ยังสามารถเห็นภาพรวมของมัน และสามารถจัดลำดับความสำคัญได้ โดยการใช้สติคิดอย่างถี่ถ้วน เมื่อวันพรุ่งนี้มาถึงคุณก็สามารถเริ่มทำกิจกรรมตามที่วางแผนไว้ โดยเรียงความสำคัญจากมากไปน้อยได้ทันทีอย่างมีสติไม่มีลนลาน  

และนี่ก็คือ 7 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ยากไม่ง่าย เพราะมันขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้น ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ ทุกคนก็มีวิธีที่เหมาะสมของตัวเอง คุณอาจจะไม่ได้ทำตามนี้เป๊ะ ๆ  เอาเป็นว่าปรับทำแบบที่คุณสบายใจ และคิดว่ามันใช้ได้ผลจริงก็พอ

บทความล่าสุด