หยุดกินไม่ได้ ทําไงดี?

หยุดกินไม่ได้ ทําไงดี

ดูเหมือนว่าปัญหาหลักของคนที่ต้องการลดน้ำหนักนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่การหาเวลาออกกำลังกายเท่านั้น เมื่อความอยากลดน้ำหนักแต่ยังหยุดกินไม่ได้สักที กลายเป็นปัญหาเครียด ๆ ที่ส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจมากกว่าการไม่มีเวลาออกกำลังกายเสียอีก ประหนึ่งว่าถ้าไม่ได้กินเหมือนใจจะขาดกันเลยทีเดียวและผลกระทบของมันก็คือความวิตกกังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่ตามมาพาลพาจิตใจก้าวสู่โรคเครียดได้อีกด้วย

และถ้าคุณคือคนหนึ่งที่มีความรู้สึกโหยหาอาหารแบบไม่รู้จบ อยากนั้นอยากนี่อยู่ตลอดเวลาและกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่มสักที แบบว่าห้ามใจอย่างไรก็เอาไม่ไหว พลาดเอาอารมณ์หงุดหงิดกันไปใหญ่แล้วละก็ ผมบอกได้เลยว่า ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ใช่ความหิวที่ร่างกายต้องการอาหารเพื่อให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หยุดกินไม่ได้ ทําไงดี?

การหยุดกินไม่ได้คืออาการโหยหาอาหารที่เกินความควบคุมของจิตใจ เหมือนกับว่าร่างกายต้องการอาหารมากเป็นพิเศษทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วร่างกายเราไม่ได้ต้องการมันมากไปกว่ามื้อหิว ๆ ที่เราทานแล้วอิ่มท้องเลย และแน่นอนว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบร้าย ๆ ต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตของเรานั่นเอง

และในบทความนี้ผมจึงอยากชวนเพื่อน ๆ มาร่วมหาเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงอยากกินเรื่อย ๆ แม้จะไม่ได้หิวก็ตาม รวมถึงวิธีห้ามปากอย่างไร เมื่อร่างกายเราไม่ได้ต้องการอาหารเหล่านั้นมากมายอย่างเช่นความรู้สึกบ่งบอก เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีของตัวเรา

ซึ่งเพื่อน ๆ รู้ไหมว่า อาการหิวบ่อยจนต้องกินตลอดเวลานอกจากสาเหตุทางกาย อย่างเช่น ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง การตั้งครรภ์ การทานยารักษาโรคบางชนิดแล้ว สาเหตุทางจิต ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนเราต้องกินอยู่ตลอดเวลาและกินเกินความจำเป็นของร่างกายอีกด้วย

ซึ่งเบื้องต้นผมแนะนำเลยว่า หากสังเกตุว่าน้ำหนักตัวเราขึ้นลงรวดเร็วอย่างผิดปกติ ก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับคำแนะนำในการรักษาดีกว่าแน่นอนครับ

แต่ทว่าดู ๆ อาการแล้วน่าจะเกิดจากสาเหตุทั่ว ๆ ไป คือ เว้นช่วงจากการทานอาหารเป็นเวลานานหลายชั่วโมง นอนน้อย เครียดสะสมจากที่ทำงาน น้ำตาลในเลือดต่ำ หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนช่วงมีประจำเดือนในผู้หญิงแล้วละก็ เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่เพื่อน ๆ รู้สึกได้เหมือนคนบนโลกอีกหลายล้านคนที่แพ้ใจตัวเอง ห้ามความอยากไม่ค่อยได้ เลยทำให้ไม่ผอมกะเขาสักทีไงละครับ

แล้วจะมีวิธีหยุดกินอาหารยังไง ? เมื่อร่างกายเราไม่ได้ต้องการมันมากมายอะไรเลย

ทางลัดที่จะหยุดเหตุผลสนับสนุนให้เรากินได้อยู่เรื่อย ๆ หรือโหยหาอาหารอยู่ตลอดเวลา อันไม่เกี่ยวกับความผิดปกติทางกายหรือจิตใจที่ต้องพบแพทย์นั้น ผมแนะนำว่า เพื่อน ๆ ต้องตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรก ๆ เลยละครับแล้วลองทำตามวิธีการต่อไปนี้

ซึ่งผมรับรองได้เลยว่าทำได้ครบจบที่หุ่นสวยสุขภาพแข็งแรงและหยุดนิสัยกินจุบกินจิบได้แน่ ๆ ว่าแล้วลองเลื่อนอ่านไปด้วยกันแบบช้า ๆ กันเลยครับ

1. ปรับความคิด: เปลี่ยนจากลดน้ำหนักเป็นสุขภาพดี

จุดเริ่มต้นดี ๆ สำหรับวิธีการหยุดกินอาหารที่มากเกินความต้องการของร่างกาย คือ การโยนทิ้งคำว่า ลดน้ำหนัก ไปก่อนเพราะยิ่งเราคิดหาวิธีลดน้ำหนักด้วยการหยุดกินเท่าไหร่ ความเครียดยิ่งพาเราสู่การกินที่เยอะขึ้นเท่านั้นเหมือนโยโย่เลยละครับ เอาเป็นว่าโยนคำนี้ทิ้งแล้วหันมาใส่ความรู้สึกอยากมีสุขภาพดี ๆ เข้าไปแทนที่กันดีกว่าเพราะเมื่อเรารู้สึกอยากมีสุขภาพดีเราก็จะหาวิธีเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นั่นเอง อย่าเชื่อครับแต่ผมอยากให้เพื่อน ๆ ลองทำดู

2. กินแค่พออิ่ม ที่ไม่ใช่อิ่มจนยัดเข้าไปไม่ไหวแล้ว

ร่างกายเราต้องการอาหารแค่พออิ่มครับ สำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนั้นในมื้อเด็ด ๆ กับอาหารจานโปรด การคอยสังเกตคำเตือนจากกระเพาะอาหารของเพื่อน ๆ ว่าอิ่มแล้วเป็นสิ่งสำคัญ และการสวาปามอาหารสุดโปรดตรงหน้ามากเกินไปก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใด ๆ อีกด้วย ดังนั้นการคอยถามตัวเองเสมอระหว่างกินอาหารว่า เรายังหิวอยู่ไหม จะทำให้เพื่อน ๆ รู้จักความต้องการอาหารของร่างกายที่มากขึ้นนั้นเอง

3. เคี้ยวให้เยอะ ๆ ให้กรามออกกำลังกายบดอาหารให้ละเอียดที่สุด

มีงานวิจัยหนึ่งระบุว่า คนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ จะส่งสัญญาณให้ร่างกายรู้สึกพอกับมื้ออาหารที่ทานช้าถึง 20 นาทีเลยทีเดียว หรือที่เราเข้าใจกันว่ากระเพาะอาหารขยายนั่นเอง ดังนั้นระหว่างรอให้สมองรับรู้ความรู้สึกพอ

ผมแนะนำว่าเพื่อน ๆ ลองให้กรามบดอาหารที่ทานให้ละเอียดที่สุดดูสิครับ เพราะนอกจากทำให้เพื่อน ๆ ทานอาหารได้ช้าลงระหว่างการเดินทางของสัญญาณร่างกายแล้ว การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น แถมยังหลอกร่างกายให้คิดว่าได้รับอาหารมากกว่าที่กินเข้าไปจริงๆ ได้ดีอีกด้วยนะครับ

4. ระหว่างกินอาหาร ให้น้ำเปล่าเป็นตัวช่วยได้

สำหรับใครที่รักสุขภาพ การกินข้าวคำ น้ำคำ ไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ แต่มันกลับดีต่อสุขภาพร่างกายเราอีกด้วย เพราะนอกจากจะช่วยให้เราอิ่มเร็วขึ้นแล้ว น้ำเปล่ายังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ และผมขอย้ำนะครับว่า น้ำเปล่าเท่านั้น เพราะน้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่ส่วนเกินหรือพลังงานใด ๆ ที่จะทำให้ร่างกายนำไปสะสมได้เหมือนอย่าง น้ำหวานโดยทั่ว ๆ ไปที่เป็นหนึ่งในตัวการเพิ่มไขมันสะสมในร่างกาย

5. ย่อยจากมื้อหลัง 3 เวลาเป็นมื้อเล็กหลาย ๆ มื้อ

ร่างกายเราถูกคำนวณไว้แล้วครับว่าควรได้รับอาหารครบ 3 มื้อ คือ เช้า กลางวัน เย็น แต่ทว่าวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบันอาจทำให้เพื่อน ๆ คลาดเคลื่อนกับเวลาอาหารอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น ลองซอยย่อยมื้ออาหารดูสิครับ ซึ่งงานวิจัยทางโภชนาการเผยว่า กลุ่มที่กินมื้อย่อย ๆ 6 มื้อลดอาการกินจุบจิบน้อยกว่ากลุ่มที่กิน 5 มื้อถึง 27% เลยทีเดียว ที่แน่ ๆ ต้องเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วยนะครับ

6. ใช้จานเล็กหลอกความหิว ใช้จานสีลดความอยากอาหาร

แต่ถ้าใครที่กังวลและห้ามใจตัวเองให้หยุดกินไม่ได้จริง ๆ ผมแนะนำจิตวิทยาเล็ก ๆ ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ กินได้น้อยลง อิ่มได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยการเลือกใช้จานใส่อาหารที่เล็กลง เพื่อหลอกสมองให้รู้สึกพอกับอาหารในจานพูน ๆ นั้น

ซึ่งเป็นวิธีการที่ร้านอาหารหรู ๆ เขาทำกันด้วยนะครับ สำหรับการจัดเสิร์ฟอาหารในมื้อกลางวันและมื้อเย็น เพราะในทางจิตวิทยาอาหารเต็มจานเล็กจะยั่วให้คนอยากกินมากกว่าจานใหญ่ที่มีอาหารนิดเดียว ซึ่งคุณรู้ไหมครับว่า ทั้งสองมื้อนั้นมีปริมาณอาหารที่ไม่ต่างกันเลย

และรู้ไหมครับว่า ถ้าหากเลือกจานใส่อาหารที่มีสีเข้มอย่าง สีดำหรือสีโทนน้ำเงินด้วยแล้ว จะยิ่งส่งผลให้สมองรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ของกินและสามารถลดความอยากอาหารให้ลดลงไปได้อย่างดียิ่งอีกด้วย ดังนั้น ใครที่ยังเครียดกับการหยุดกินไม่ได้สักที ลองนำวิธีนี้ไปทดลองกันดูก็ไม่เสียหายครับ

มาถึงตรงนี้ ผมเชื่อแน่ครับว่าเพื่อน ๆ ที่ได้อ่านบทความข้างต้นจะต้องได้ไอเดียดี ๆ สำหรับการหยุดตามใจปาก และตอบคำถามในหัวข้อ หยุดกินไม่ได้ ทำไงดี ได้แน่ ๆ แต่ทว่าวิธีการเหล่านั้นหากเป็นเพียงแค่การอ่านผ่าน ๆ เพื่อการรับรู้ก็อาจไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย ดังนั้น ไม่เสียหายอะไรหากเพื่อน ๆ จะลองนำไปปฏิบัติกันบ้าง ค่อย ๆ เริ่มแบบไม่หักโหม แล้วสักวันหุ่นสวยสุขภาพดีย่อมเป็นของเพื่อน ๆ ได้อย่างแน่นอน

สุดท้ายอย่าลืมนะครับว่า เราไม่ได้กำลังลดความอ้วน แต่เรากำลังเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ต่างหาก และทางลัดหยุดกินมากเกินไปให้ได้ ที่ดีที่สุดคือความตั้งใจและลงมือทำ ขอให้สุขภาพที่ดีเป็นของเพื่อน ๆ ทุกท่านครับ

บทความล่าสุด