เราต่างหวังว่าอยากที่จะประสบความสำเร็จและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันทุกคน แต่การที่จะมีความสำเร็จและความสุขอย่างยั่งยืนได้อย่างไรกันนั้น ก็ต้องมีการวางแผนชีวิตที่ดี ซึ่งเบื้องต้นเราต้องเป็นคนมองโลกในแง่บวก การวางแผนของเราทุกขั้นตอนต้องรอบคอบ แต่หากเกิดเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดแล้วส่งผลกระทบ เราก็พร้อมที่จะรับมือและเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นเสมอ
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการวางแผนชีวิตที่ดี และข้อแนะนำต่างๆที่จะทำให้คุณมีชีวิตที่คุณพอใจมากขึ้น
การวางแผนชีวิตคืออะไร
การวางแผนชีวิตคือ แผนที่ชีวิตหรือป้ายบอกทางของเรา หากเราได้มีการวางแผน เราจะรู้สึกได้เองว่าทำอะไรก็ง่ายขึ้น ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ แผนชีวิตที่ดีต้องมีความเหมาะสมกับความเป็นจริง สามารถดำเนินการตามได้จริง
ก่อนที่จะพูดอะไรมากกว่านี้ ผมต้องบอกก่อนว่า เป้าหมายในชีวิต หรือ นิยามความสุขในชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน บางคนมีเป้าหมายคือการเรียนสูงๆ บางคนอยากได้บ้านหลังใหญ่ บางคนอยากไปอยู่ต่างจัดหวัดแบบสมถะ ในส่วนนี้หากคุณไม่สามารถนิยามเป้าหมายเบื้องต้น (หรือเป้าหมายสูงสุด) ของชีวิตคุณได้ ข้อแนะนำก็คือ ‘ให้วางแผนที่จะเรียนรู้ ค้นหาตัวเองก่อน‘
ยกตัวอย่างเช่น การลองทำอะไรใหม่ๆ คุยกับคนที่มุมมองต่าง
อย่างไรก็ตามในบทความนี้ผมก็ได้ทำ ‘ข้อแนะนำ’ ในการวางแผนชีวิตที่ทุกคนน่าจะปรับไปใช้ได้ ผมได้แบ่งออกมาเป็นเรื่องของครอบครัว เรื่องของเป้าหมายการทำงาน และเรื่องของการมีความสุขกับการทำงาน ทุกคนสามารถอ่านและนำไปลองปรับกันได้นะครับ
ข้อแนะนำในการวางแผนชีวิตครอบครัว
ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิตของคนเรา แต่การที่ครอบครัวจะถือว่ามีคุณภาพและสมบูรณ์ได้นั้น ต้องเกิดจากการมีวางแผนภายในครอบครัวที่ดี
พื้นฐานของการเป็นครอบครัวก็คือ การเลือกบุคคลที่พร้อมจะเป็นคู่ครองของเรา ที่พร้อมที่ตะเป็นครอบครัวเดียวกัน และที่สำคัญคือมีเป้าหมายในการวางแผนครอบครัวที่เป็นในทิศทางเดียวกัน
องค์ประกอบสำคัญของการเลือกคนที่เป็นคู่ชีวิตคือ มีแนวคิดและทัศนคติการใช้ชีวิตที่เหมือนกัน หากต่างกันก็สามารถปรับจูนกันได้ มีความพร้อมทางด้านการงาน ความมั่นคงทางการเงิน การแต่งงานและการมีบุตร เพื่อให้ลูกโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ แต่ต้องเป็นคนรู้จักผิดชอบชั่วดี และทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย
ชีวิตคู่หรือคนที่เป็นสามีภรรยาคือจุดเริ่มต้นของการเป็นครอบครัว เมื่อตกลงที่จะมาเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต้องมีการปรับจูนหรือปรับตัวกันค่อนข้างมากในช่วงแรก เพราะคนเราต่างมีประสบการณ์และการใช้ชีวิตที่ต่างกัน อาจจะต้องเปิดใจให้กว้าง พยายามทำความเข้าใจกันให้มาก ๆ เพื่อลดความขัดแย้งให้น้อยที่สุด
ในเรื่องการมีบุตร พ่อและแม่ต้องมีความพร้อมทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ ควรตรวจเช็คสุขภาพทั้งพ่อและแม่ก่อนที่จะแต่งงานและมีการตั้งครรภ์ จะได้รับมือและแก้ไขได้ทันทีและเพื่อให้ลูกมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
ที่สำคัญคือต้องมีการปรึกษาและคุยกันว่าใครต้องมีหน้าที่หรือรับผิดชอบในเรื่องใดบ้าง และควรมีการวางแผนหรือจัดสรรรายรับรายจ่ายในครอบครัวให้ดี รวมถึงคำนึงถึงเงินออมที่ต้องใช้ในอนาคตและไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
นอกจากนี้ต้องมีการเตรียมตัวที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดี และเป็นตัวอย่างให้กับลูกๆ ควรพยายามศึกษาทักษะ หรือขอคำแนะนำจากคนที่มีความรู้และประสบการณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะสูตินรีแพทย์ หรืออ่านหนังสือตำรา และศึกษาในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากยังไม่พร้อมที่จะมีบุตรด้วยปัจจัยต่าง ๆนั้น ควรมีการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี โดยสามารถขอคำปรึกษาจากสูตินรีแพทย์ เพื่อเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดที่ดีและเหมาะสมกับตัวเราเอง
ปัจจุบันพบว่ามีอัตราการเกิดของเด็กค่อนข้างมาก เพราะบางคนยังไม่ตระหนักและขาดความรู้ในเรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง และมองว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมาก จริงอยู่ที่ว่าเลี้ยงให้โต ใครก็เลี้ยงได้ แต่การที่จะเลี้ยงให้มีประสิทธิภาพ ควรมีการวางแผนให้ดี เพราะการเกิดของคนๆหนึ่ง ควรเกิดมาอย่างมีคุณภาพและมีความสุข
เมื่อยังไม่พร้อมควรมีการคุมกำเนิด จึงอยากให้คนที่จะเป็นพ่อแม่ ควรตระหนักให้ความสำคัญในเรื่องนี้ นึกถึงลูกให้เยอะๆ เพราะมันส่งผลต่อลูกของเราเองในอนาคตค่อนข้างมาก
ครอบครัวเป็นพื้นฐานและส่วนสำคัญต่อการปลูกฝังเด็ก เพราะการที่ช่วยให้เติบโตเป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนต่อคนอื่น ขึ้นอยู่กับทัศนคติที่ดี รูปแบบการเลี้ยงดูของคนในครอบครัวด้วย เพราะฉะนั้นการมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องยากแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ควรมีการทำความเข้าใจ ศึกษาและวางแผนให้ครอบคลุมและรอบคอบ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในอนาคต และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องการมีการวางแผนครอบครัวที่ดี
ข้อแนะนำในการวางแผนชีวิตและอาชีพ
ปกติเมื่อเราเดินทางไปที่ ๆไม่คุ้นเคยหรือเดินป่า ยังต้องมีแผนที่หรือเข็มทิศ เพื่อไม่ให้หลงทาง และเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางได้ถูกต้อง ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน เราไม่รู้เลยว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง แต่ถ้ามีการวางแผน จัดสรรให้เป็นระบบ ทุกอย่างจะดูง่ายขึ้น ผิดพลาดน้อยลง และเป้าหมายการใช้ชีวิตก็จะชัดเจนมากขึ้นด้วย
เมื่อเรามีเป้าหมายอาชีพที่ชัดเจนและแน่นอนแล้ว เราควรมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของความรู้ ความสามารถ ทักษะที่จำเป็นต้องใช้ ต่อให้ทางข้างหน้าจะเจออุปสรรคหรือปัญหา เราก็ไม่มีวันท้อถ้อย แต่ถ้าเราเหนื่อยเราเลือกที่จะพักก่อนก็ได้ แล้วค่อยไปต่อ เพราะเส้นทางที่เราเลือก เรามั่นใจแล้วว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน
เมื่อไหร่ที่เราเจอ passion หรือหนทางที่ใช่ เป้าหมายที่โดน สิ่งสำคัญหรือพื้นฐานของการตั้งเป้าหมาย เราต้องมีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวกไว้ ศรัทธาและเชื่อมั่นในตนเองว่าเราทำได้ อย่าให้ความกลัวมาทำลายความฝัน ความสำเร็จและความสุขของเราเอง
ความกลัวเป็นด่านแรกและด่านสำคัญที่จะสอนเราเป็นคนแกร่งขึ้นและกล้าหาญขึ้น เมื่อไหร่ที่คุณเอาชนะมันได้ กล้าที่จะลองและเสี่ยง คุณจะได้สัมผัสและภูมิใจกับความสำเร็จนั้นที่คุณคาดหวังไว้อย่างไม่น่าเชื่อ
ความกลัวและความกังวลเป็นเรื่องปกติและธรรมชาติของคนเราที่ต้องการปกป้องตัวเอง ไม่ให้เจอกับความรู้สึกแย่เมื่อเจอความล้มเหลว แต่สิ่งเหล่านั้นจะเป็นประสบการณ์ทำให้คุณเติบโตและกลายเป็นคนที่กล้าเผชิญหน้า ไม่กลัวอะไรง่ายๆ และพร้อมที่จะสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในข้างหน้า
บางคนกลัวว่ามันต้องยาก เป็นไปไม่ได้หรอก ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ คนอื่นต้องวิจารณ์แน่ ๆ ขอให้คุณจงฟังเสียงของตัวเอง แล้วข้ามผ่านมันไปให้ได้ หรือหาแรงบันดาลใจเพื่อให้คุณมีกำลังใจที่จะไปต่อ และที่สำคัญเมื่อได้งานแล้ว เราควรมีการพัฒนาและฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ตัวเองมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรืออาชีพนั้น ๆด้วย
ส่วนใหญ่เราใช้ชีวิตไปกับการทำงาน ฉะนั้นเราควรเลือกงานที่เรารัก พร้อมที่จะทำงานในทุก ๆวัน ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกแย่กับการที่ต้องเจอกับวันจันทร์ และทำให้เรามีความสุขมากกว่าเงินเดือนเยอะแต่สุขภาพกายและใจแย่ ถึงเงินเดือนจะน้อย เราก็สามารถทำอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ได้เหมือนกัน
ถ้างานนี้คุณชอบและใช่แต่เงินเดือนมันน้อยเกินที่จะรับไหว คุณต้องเปลี่ยนงาน อย่าฝืนหรือหลอกตัวเองเพราะมันจะทำให้คุณเครียด แล้วหันมาหางานที่คุณชอบและยอมรับกับเงินเดือนได้จริงๆ หรือคุณต้องเพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถให้กับตัวเอง เพื่อมีช่องทางหารายได้เพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพมากพอและมีพรสวรรค์ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น
แต่ในกรณีคนที่ต้องทำงานเยอะๆ เพียงเพื่ออยากมีเงินใช้ให้มากขึ้น หรือมีภาระและความรับผิดชอบมากมาย อย่างไรก็ตามควรคำนึงถึงสุขภาพกายและจิตใจเราด้วย ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเงินที่หามาได้ จะต้องเอาไปใช้เป็นค่ารักษาตัวเองซะเอง
การทำแบบนี้จัดว่าเป็นความล้มเหลวอย่างหนึ่งในเรื่องของการใช้ชีวิต ควรหาเวลาพักผ่อน อยู่กับตัวเองหรือทำให้ตัวเองผ่อนคลายบ้าง หรือแม้กระทั่งลดความต้องการของตัวเองลง แล้วใช้จ่ายแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น คุณจะมีเงินเก็บเยอะขึ้น
อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทำงานก็ต้องมีการพักผ่อน และออกไปท่องเที่ยว ใช้ชีวิต ทำสิ่งที่ตนเองสนใจ หรือที่เรียกกันว่า work-life balance เราควรมีการทำงานและใช้ชีวิตให้สมดุลกัน มีการดูแลสุขภาพกายและใจเป็นประจำ ออกไปท่องเที่ยว ค้นคว้าหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือหางานอดิเรก ฝึกฝนในสิ่งที่เราชอบเพิ่มเติม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตให้มีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อแนะนำในการวางแผนชีวิตในการทำงาน
การทำงานเป็นสิ่งสำคัญของการดำเนินชีวิตของคนเรา เมื่อมีงานเราก็มีรายได้เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน แต่การที่เราจะมีงานหรือทำงานให้ได้ดีนั้น เราก็ต้องมีการวางแผนก่อนเพื่องานที่ออกมาได้สมบูรณ์และเกิดข้อผิดพลาดได้น้อยที่สุด
การวางแผนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆในทุกเรื่อง เพราะหากเกิดอะไรขึ้นโดยที่เราก็ไม่คาดคิด เราจะได้รับมือได้เร็วและแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น มีแผนหลักก็ต้องมีแผนสำรองด้วย
ในแง่ของการทำงาน เราควรมีเป้าหมายและวางแผนในแต่ละวันให้ดี มีการเขียนรายการออกมาว่าเราจะทำอะไรบ้าง โดยแบ่งออกเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำและสิ่งที่อยากทำ เพื่อจัดลำดับสำคัญได้ถูกต้องและเหมาะสม
เมื่อจัดลำดับสำคัญได้แล้ว ควรมีการระบุวันและเวลาว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เพื่อไม่ให้เกิดความกังวลเมื่อ deadline มาถึง และหลังจากทำงานเสร็จแต่ละชิ้นที่ได้รับมอบหมายควรมีการตรวจทานว่าทำอะไรเสร็จไปแล้วบ้าง
เวลาทำงานควรมีความตั้งใจและอุทิศตนให้กับงานนั้น ๆ ทำให้เต็มที่จะดีกว่าทำพอให้เสร็จๆไป คุณภาพของงานมันบ่งบอกตัวตนของคนที่ทำงานได้ด้วยว่าเราเป็นคนอย่างไร โฟกัสกับงานที่ทำ และแบ่งเวลาพักเบรกให้ดีเพื่อไม่ให้กระทบงาน
สถานที่ทำงานก็สำคัญ ควรเลือกสภาพแวดล้อมที่เรารู้สึกสบายใจ มีสมาธิ และอากาศถ่ายเท และหลีกเลี่ยงปัจจัยอื่น ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ปิดเสียงโทรศัพท์หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆชั่วคราว ออกห่างจากเสียงของเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
เราเลือกได้ว่าจะบริหารจัดการได้อย่างไร เพื่อทำงานให้เกิดประสิทธิสูงสุด แต่ไม่ใช่ทำงานจนเครียด เสียสุขภาพจิต เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณจริงจังกับงานเกินไป จนบางครั้งต้องหอบงานมาทำที่บ้านหรือกระทบความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว บางทีเราควรปรับสมดุล ทำตัวเองผ่อนคลายบ้าง เพื่อให้ร่างกายไม่ป่วย อารมณ์และจิตใจก็ไม่แปรปรวน
ฉะนั้นการวางแผนการทำงานที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ดีกว่าการล่องลอยไม่มีจุดหมายในแต่ละวัน เราควรรู้และตระหนักว่าสิ่งไหนควรทำก่อนหลัง จัดสรรเวลาดี ๆเพื่อไม่ให้กระทบกับงานหรือเรื่องอื่น ๆที่คุณต้องทำ
สุดท้ายนี้เกี่ยวกับการวางแผนชีวิต
ต่อให้ผมมีคำแนะนำมากแค่ไหน สุดท้าย ‘เป้าหมาย’ หรือ วิธีดำเนินชีวิตก็ต้องถูกออกมาแบบในรูปแบบที่คุณ ‘พึงพอใจ’ ไว้ก่อนเสมอ และแน่นอนว่ามนุษย์แต่ละคนมีความพึงพอใจและมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน ทำให้นิยามความสุขจากการวางแผนชีวิตแตกต่างกันด้วย
หมายความว่าหากคุณอยากจะทำข้อแนะนำเหล่านี้ไปดำเนินชีวิตจริงๆให้มีความสุข คุณก็ต้องอย่าลืมหานิยามความสุขของตัวเองให้เจอก่อนนะครับ
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...