ใครที่กำลังหมดแพชชันในการทำงาน เฝ้านับวันรอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์รีบมาสร้างแรงบันดาลใจ ในการทํางานก่อนที่ไฟจะมอดดับลงกันเถอะ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คุณอาจจะไม่ได้พบปะกับเพื่อนร่วมงานและไม่ได้เจอใครในช่วงวันหยุด การอยู่ในบรรยากาศเดิม ๆ ที่ต้องใช้พื้นที่ทำงานและพื้นที่ผ่อนคลายรวมกัน ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมฯ กว่าแปดชั่วโมงคงทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกห่อเหี่ยวและอิดโรยลงไปเรื่อย ๆ หากคุณกำลังเผชิญปัญหาประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ต้องใช้เวลามหาศาลในการทำแต่ละอย่างให้เสร็จสิ้น นั่นไม่ใช้เรื่องแปลกเลยเนื่องจากแรงจูงใจในการทํางานกำลังร่อยหรอลงไปทุกวัน ๆ คุณไม่ใช่คนเดียวที่กำลังประสบปัญหานี้อย่างแน่นอน วันนี้เราจะพาคุณมาเติมเชื้อเพลิงให้มีไฟกลับมาลุยงานอีกครั้งแบบมีประสิทธิภาพเกินร้อย หากพร้อมแล้วมาดูกันเลยว่าจะมีวิธีการใดน่าสนใจบ้าง
แรงบันดาลใจ ในการทํางานสร้างได้ด้วย 5 วิธีแสนง่ายดาย
สำหรับแรงบันดาลใจ ในการทํางานสามารถสร้างได้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทัศนคติและสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าทุกคนสามารถทำตามขั้นตอนง่าย ๆ 5 ประการนี้ได้อย่างแน่นอน
1.ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายคนเกิดอาการท้อแท้และเบื่อหน่ายอย่างยิ่ง คือ การทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) หรืออุดอู้อยู่ในสภาวะแวดล้อมเดิม ๆ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมเล็ก ๆ น้อย ๆ จะสามารถช่วยได้เป็นอย่างดี โดยอาจเริ่มจากอุปกรณ์การทำงานที่อำนวยความสะดวกขั้นสุดอย่าง เก้าอี้ทำงานที่ถูกสุขลักษณะ คอมพิวเตอร์ล้ำสมัยที่มีความรวดเร็วหรือคีย์บอร์ดใหม่ก็จะช่วยเติมไฟให้ชีวิตได้อย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้การตกแต่งสถานที่ทำงานให้ร่มรื่นมากขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต้นไม้ในหรือนอกอาคารก็สามารถช่วยให้มีจุดพักผ่อนสายตาได้ หรือใครจะเพิ่มมุมพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่ใช่บริเวณเดียวกับโต๊ะทำงานก็ดียิ่ง เมื่อทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วมีโซฟานุ่ม ๆ มาให้เอนกายหรือมีเครื่องเล่นเกมสักอันจะช่วยให้คลายกังวลจากงานที่ต้องรับภาระในแต่ละวันได้
2.ให้รางวัลตัวเองบ้าง
อีกหนึ่งวิธีการสร้างแรงจูงใจที่จะช่วยให้คุณฮึดสู้ต่อได้ คือ การให้รางวัลเล็กกับตัวเองบ้างในระหว่างการทำงานหรือหลังจากทำงานเสร็จสิ้นแล้ว เทคนิคนี้นักเรียนหรือนักศึกษาก็สามารถนำไปใช้เพื่อเติมไฟในการอ่านหนังสือได้เช่นกัน
ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นการันตีว่าวิธีนี้จะช่วยให้คุณสนุกและมีแรงบันดาลใจ ในการทํางานเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างการทำงานเปิดฟังเพลลิสต์โปรดคลอเบา ๆ หรือการแบ่งสัดส่วนการทำงานออกเป็น 50:10 คือ ทำงาน 50 นาทีและพักผ่อนอีก 10 นาทีเป็นรอบ ๆ ไป โดยในระหว่างพักอาจจะชงเครื่องดื่มที่ชอบสักแก้วก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย
3.วางแผนการทำงานแต่ละวัน
การวางแผนขั้นตอนการทำงานตามความสำคัญ (prioritize) จะทำให้คุณรู้สึกว่าทุกอย่างสามารถควรคุมได้และเป็นไปตามขั้นตอนซึ่งจะช่วยให้ความเครียดลดลงและ คุณสามารถเริ่มจากสิ่งง่าย ๆ ก่อนก็ได้อย่าง เวลาในการทำอาหารและการรับประทาน ระยะเวลาในการตอบข้อความหรือระยะเวลาในการทำภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่งให้ชัดเจน
4.ทบทวนตัวเองกันใหม่
หากการให้รางวัลตัวเองหรือการวางแผนยังช่วยเติมเชื้อเพลิงให้คุณได้ไม่มากพอ การทบทวนว่าสิ่งที่เรากำลังทำมีคุณค่าเพียงใด จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ในการทํางานได้อย่างแท้จริง โดยนักจิตวิทยาคลินิกได้กล่าวว่า เมื่อผู้คนทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำไปซ้ำมาจะหลงลืมไปว่าสิ่งที่กำลังทำมีข้อดีกับเราอย่างไร หากทราบว่าสิ่งที่ต้องทำกับความฝันหรือสิ่งสำคัญในชีวิตของคุณมีความเกี่ยวโยงกันอย่างไรจะช่วยเตือนสติได้ว่าทำไมคุณจึงต้องทำมัน
5.รู้ทันบ่อเกิดแห่งความเครียด
การหมั่นสังเกตตัวเองและรู้เท่าทันว่าสาเหตุของความเครียดที่คุณเผชิญมาจากอะไร ก็จะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันมาได้ อาจเริ่มฝึกจากการฝึกสติแบบสั้น ๆ จดจ่อกับสิ่งตรงหน้า นอกจากการตระหนักรู้แล้ว การหาว่าปัจจัยภายนอกที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้างจะช่วยให้คุณมีความสุขขึ้นอีกขั้น โดยแต่ละคนจะมีความชื่นชอบต่างกัน เช่น การอ่านหนังสือ การฟังพอตแคสต์หรือการแลกเปลี่ยนกับคนรอบข้าง เป็นต้น
5 เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจ ในการทํางานให้ไฟลุกโชนอีกครั้ง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีในการสร้างแรงบันดาลใจ ในการทํางานทั้ง 5 ข้อที่เราหยิบมานำเสนอกันวันนี้ เชื่อว่าหลายคนที่กำลังหมดไฟไร้แรงจูงใจในการทำงานแต่ละวันจะสามารถลุกกลับมาสู้ต่อได้ด้วยการนำกลวิธีทั้ง 5 ข้อไปประยุกต์ใช้ ทั้งนี้คุณไม่ใช้คนคนเดียวที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ ยังมีเพื่อนร่วมทางอีกหลายคนที่กำลังหมดแรงอยู่เช่นกันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ การแพร่ระบาดของไวรัส สงครามและปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฝันกับอุปสรรคในชีวิตและกลับมามีไฟในการดำเนินชีวิตแบบเต็มเปี่ยมอีกครั้ง คุณทำได้อย่างแน่นอน!
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...