การคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย อาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างในชีวิต หากเราคิดมากเกินไป เราก็อาจจะไม่สามารถใช้สติและเหตุผลในการตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นแล้ว เรายังรู้สึกเครียดอีกด้วย
‘การคิด’ เป็นเรื่องที่ดี แต่อะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็มักจะทำให้เกิดปัญหาเสมอ
เวลาที่เราคิดมาก เราก็จะพะวงอยู่กับสิ่งที่ไม่ดี เรามักจะทำอะไรไม่ถูก หากสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่วที่เกิดขึ้นกับคุณอยู่บ่อยๆ บทความนี้มีวิธีช่วยแก้ปัญหาการ ‘คิดมาก’
การเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย
การคิดมาก ก็คือการใช้เวลาไปกับการครุ่นคิดมากเกินจำเป็น เช่นการวิเคราะห์และการวิจารณ์สิ่งเดิมซ้ำๆแทนที่จะปรับความคิดมาเป็นการกระทำ เป็นการใช้พลังงานและเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ และทำให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปในชีวิตได้
ซึ่งสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการคิดมากก็คือการหาคำตอบ การทำตัวกระตือรือร้น แทนที่จะจมอยู่กับความคิดเดิมซ้ำๆ
และตัวอย่างการคิดมาก การคิดวนไปมา ก็คือการถามตัวเองซ้ำๆด้วยคำถามเช่น ‘ถ้าเกิดว่า’ และ ‘ทำไม’ หรือการที่เราคิดถึงแต่เหตุการณ์แย่ๆจนไม่กล้าทำอะไรเลย
การคิดมากสองแบบ – คิดถึงอดีต และ กังวลกับอนาคต
การคิดมาก สามารถถูกแบ่งได้สองรูปแบบ ก็คือการคิดย้ำอยู่กับอดีต และการกังวลกับอนาคต
คนที่คิดมาก จะไม่เหมือนกับคนที่กำลัง ‘แก้ไขปัญหา’ การแก้ไขปัญหาคือการหาคำตอบ หาทางแก้ แต่คนที่คิดมากคือคนที่ตอกย้ำตัวเองอยู่กับปัญหานั้นๆ
นอกจากนั้น การคิดมาก ยังต่างจาก ‘การสะท้อนความคิด’ และ ‘การเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง’ เพราะการการสะท้อนความคิดและการเรียนรู้ด้วยตัวเองนั้นมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก็คือการหามุมมองหรือแนวคิดใหม่เกี่ยวกับเรื่องเดิมๆ
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งต่อให้เราเริ่มต้นที่จะ ‘แก้ปัญหา’ หรือ ‘ปรับมุมมอง’ สมองและอารมณ์ของเราก็อดไม่ได้ที่จะปรับให้ความคิดพวกนี้กลายเป็นการคิดมาก การคิดในสิ่งที่ไม่จำเป็น ในทางตรงข้าม คนที่คิดมาก คิดเยอะๆ คิดเล็กคิดน้อย บางทีก็บังเอิญได้มุมมองใหม่ๆออกมา หรือได้วิธีแก้ปัญหาที่ตัวเองคิดไม่ออกมาก่อนก็ได้
พูดอีกแบบหนึ่งก็คือ ‘ขั้นตอนในการคิด’ และวิธีทำงานของสมองบางครั้งก็ไม่ได้เป็นเส้นตรงอย่างเดียว สุดท้ายวิธีตัดสินว่าความคิดของเราเ็นการคิดมาก การแก้ปัญหา หรือการสะท้อนความคิด ก็คือผลลัพธ์ที่เราได้จากการกระทำนั้นๆ ซึ่งเราก็สามารถ ‘โน้มน้าว’ ความคิดของตัวเองได้ด้วยการตั้งสติอยู่เสมอ
คนคิดมาก และ คำอธิบายทางจิตวิทยา
ในเชิงจิตวิทยานั้น คนทั่วไปก็มาอาการ ‘คิดมาก’ กันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าจะ ‘คิดมาก’ เยอะหรือบ่อยแค่ไหน และอาการคิดมากนี้ทำให้มีปัญหาในการใช้ชีวิตหรือเข้าสังคมหรือเปล่าเท่านั้นเอง บางคนคิดมากจนทำงานช้า บางคนคิดมากจนทำงานไม่ได้ บางคนก็คิดมากจนจิตวิตกังวล
และอาการของคนคิดมาก ก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละคนอีกด้วย บางคนกลัวกลัวที่จะพูด ที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวคนอื่นเอาสิ่งที่พูดหรือเขียนไปแปลเป็นอะไรที่ไม่ดี บางคนก็คิดมากกังวลมากจนนอนไม่หลับ
ปัญหาก็คือ ‘การคิดมาก’ มักจะเริ่มจากสาเหตุเล็กๆน้อยๆ แต่กลายเป็น ‘นิสัย’ โดยไม่รู้ตัว เรายิ่งคิดเยอะ สมองของเราก็ยิ่งเหนื่อย และเวลาสมองของเราเหนื่อย การตั้งสติดึงตัวเองมาสู่โลกที่ไม่คิดมากก็เป็นเรื่องที่ยากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนคิดมากมักเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล
แต่การหยุดความคิดเป็นเรื่องยาก…ไม่ว่าจะสำหรับใครก็ตาม ก่อนที่เราเริ่มแก้อาการเป็นคนคิดมาก เราก็ต้องรู้วิธี ‘จับผิด’ ตัวเองก่อน
สัญญาณว่าคุณเป็นคนคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย วิตกกังวล
ก่อนที่อาการคิดมากจะทำร้ายตัวเรา เราก็ต้องหาวิธีจับอาการของเราก่อน
คนส่วนมากคิดว่ายิ่งเยอะ ก็จะยิ่งป้องกัน ลดปัญหาในอนาคตได้ เพราะเราคิดเพื่อหาวิธีแก้ หรือทำความเข้าใจสถานการณ์ แต่คนที่คิดมากคือคนที่คิดว่า ‘ถ้าเราไม่กังวลมากกว่านี้ เราก็จะแก้ปัญหาไม่ได้’ ยิ่งเราไม่คิด เราก็จะยิ่งเจอปัญหา
10 สัญญาณว่าคุณเป็นคนคิดมาก ได้แก่:
ในสมองเล่นสถานการณ์ในอดีตซ้ำไปซ้ำมา
ในสมองเล่นความผิดพลาดในอดีตซ้ำไปซ้ำมา
ในสมองเล่นคำติชมของคนอื่นซ้ำไปซ้ำมา
ในสมองเล่นบทสนทนาในอดีตซ้ำไปซ้ำมา เช่นเรื่องที่น่าจะพูดไป หรือเรื่องที่ไม่ควรพูด
อาการนอนไม่หลับ เพราะสมองไม่หยุดทำงาน
การถามคำถามกับตัวเองว่า ‘ถ้าเกิด’ ซ้ำไปซ้ำมา
การใช้เวลาในการ ‘ตีความหมายลับ’ ของสิ่งที่คนอื่นพูดหรือทำมากเกินจำเป็น
การที่เราคิดเรื่องในอดีตหรืออนาคตมากจนไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้
การคิดถึงสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้เกินความจำเป็น
การไม่สามารถดึงความคิดออกมาจากความเศร้าความกังวลได้
ให้ลองดูนะครับว่าอาการของคุณตรงกับข้อด้านบนมากแค่ไหน แต่จำไว้ว่าต่อให้คุณครุ่นคิดเยอะ ตราบใดที่คุณยังสามารถลุกขึ้นมาแก้ปัญหาได้ และตราบใดที่ความคิดไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันหรือการเข้าสังคมของคุณ คุณก็ไม่ต้องกังวลมากว่าคุณเป็นคน คิดเล็กคิดน้อย หรือคิดมาก
ก่อนอื่นเลย อย่างแรกที่ทุกคนควรรู้ก็คือ สิ่งที่ตรงกันข้ามกับอาการคิดมากไม่ใช่การไม่คิดอะไรเลย การคิดเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราทำอย่างพอเพียง และการทำความเข้าใจปัญหา ทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน
ในส่วนถัดไปเรามาดูวิธีแก้อาการคิดมากที่ทุกคนสามารถทำได้จริงกัน
วิธีแก้อาการคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย
หากคุณเป็นคนที่มีอาการคิดมาก คิดไม่ตก คิดเล็กคิดน้อย ให้ลองทำตามคำแนะนำ 10 อย่างนี้ดูเพื่อแก้อาการคิดมากของคุณ
#1 การแก้ปัญหาเริ่มจากการรับรู้และการยอมรับ – ก่อนที่เราจะมาเริ่มแก้ปัญหาของเรา สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือการยอมรับก่อนว่าสภาวะปัจจุบันที่เราคิดอย่างนั้นเป็นปัญหา ทุกครั้งที่คุณรู้สึกเครียด รู้สึกกังวล ให้ลองถอยหลังออกมาประเมินสถานการณ์ดูก่อน การรับรู้และการยอมรับเป็นขั้นแรกของการตั้งสติเพื่อแก้ปัญหาคิดมาก
#2 ปรับมุมมองให้ดูที่ข้อดี แทนข้อเสีย – ทุกปัญหา ทุกสถานการณ์ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเสมอ แต่เราจะไม่สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์นั้นทั้งหมดได้ หากเรามัวแต่คิดจมอยู่กับเรื่องไม่ดี หรือผลลัพธ์ที่เราไม่พึงประสงค์ หากคุณเป็นคนที่ไม่สามารถปรับมุมมองการคิดของตัวเองได้ง่าย ก็สามารถเริ่มได้จากการจดข้อดีข้อเสียออกมาทีละอย่างก่อน
#3 ถ้ากลัวการทำผิด ก็ให้ลองถามตัวเองดูว่าข้อเสียเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ – สาเหตุหลักของการคิดมากจนไม่กล้าที่จะเริ่มทำอะไร ก็คือการที่เรากลัวจะล้มเหลว ซึ่งคนส่วนมากกลัวความล้มเหลวเพราะผลลัพธ์ไม่ดีที่จะตามมา แต่ในความเป็นจริงแล้วความล้มเหลวบางอย่างไม่ได้มีข้อเสียมากขนาดนั้น หากเรากลัวความล้มเหลวเราก็ควรที่จะหาตัวเลือกที่มีค่าใช้จ่ายน้อยหรือใช้เวลาน้อยเพื่อทดลองดูก่อน เพื่อลดข้อเสียจากการล้มเหลว
#4 หาความสุข มารบกวนจิตใจเรา – เวลาที่สมองเราเครียดหรือวิตกกังวลกับเรื่องที่ทำให้เราคิดมาก เราก็จะไม่มีสติมากพอที่จะแก้ปัญหาต่างๆได้ ในกรณีนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือการพักสมอง พักเรื่องทำให้เราคิดมาก โดยการหาความสุขมาเติมเต็มสมองของเราชั่วคราว อาจจะเป็นการออกไปหาอะไรทานอร่อยๆ การออกไปเดินเล่น หรือการพักฟังเพลงซัก 5 นาที 10 นาทีก็ตาม
#5 เลิกรอที่จะให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ – หลายคนคิดมากไม่กล้าทำอะไรเพราะกำลังรอโอกาสที่ดีที่สุดอยู่ แน่นอนว่าการรอเพื่อทำให้เราประสบความสำเร็จที่สุดไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การรอโดยที่ไม่มีแผนอะไรรับรอง รอแบบไม่มีมูลฐาน ก็ไม่ต่างอะไรกับการเพ้อฝัน ไม่ลองเปลี่ยนมุมมองว่าเราไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ ความสมบูรณ์แบบจะมาจากสิ่งที่เราเริ่มทำวันนี้
#6 ตั้งเวลาให้กับตัวเอง – อีกปัญหาหนึ่งของการคิดมากก็คือการที่เรามัวแต่จมอยู่กับความคิดในแง่ลบ คิดเยอะจนลืมดึงตัวเองเอามาแก้ปัญหา ในกรณีนี้เราก็ควรตั้งเวลาให้กับตัวเอง แล้วก็สัญญากับตัวเองว่าถ้าเราพิจารณาปัญหาครบในเวลาที่เรากำหนดแล้ว ก็ควรเริ่มต้นจากตัวเลือกที่ดีที่สุดเริ่มง่ายที่สุดก่อนไปเลย อาจจะเป็นการตั้งเวลาในมือถือ 30 นาทีหรือเป็นการให้เวลาตัวเองคิดก่อน 3 วันก็แล้วแต่
#7 ยอมรับว่าเราได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว – คนที่คิดมากบางคนมีปัญหาเพราะว่าตัวเองเป็นคน ‘มาตรฐานสูง’ หมายความว่าไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม ผลลัพธ์ก็ไม่เคยจะดีพอกับที่ตัวเองคาดหวังไว้ ในกรณีนี้เราก็ควรผ่านมาพิจารณาความเป็นจริงมากขึ้น ยอมรับในความพยายามของตัวเอง ยอมรับในสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ และหาวิธีทำให้ทุกอย่างดีขึ้นในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะแก้ทุกอย่างทันที
#8 มีความสุขกับโอกาสที่เราได้ มากกว่าปัญหาที่เราเจอ – ความคิดมากก็อาจจะมาจากความผิดหวังก็ได้ เราคิดมากเพราะเราไม่อยากที่จะผิดหวัง เราอยากจะเป็นคนที่รอบคอบ แต่ถ้าเราสามารถเปลี่ยนมุมมองตัวเอง เปลี่ยนการมองสิ่งไม่ดีว่าเป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง ให้กลายเป็นโอกาสให้เราพัฒนาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เราก็จะสามารถมีความสุขกับทุกอย่างจนไม่ต้องคิดมาก
#9 เปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นความรอบคอบ และความรอบคอบให้กลายเป็นการกระทำ – สุดท้ายแล้วปัญหาของคนคิดมากก็คือคิดเยอะ แต่ไม่มีผลลัพธ์ ไม่มีคนตอบ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ที่ตรงไปตรงมามากที่สุดก็คือ การเปลี่ยนความกลัวความคิดมากให้กลายเป็นความรอบคอบ เราคิดจนมองเห็นปัญหาทุกอย่างแล้ว เราก็ควรคิดจนทำความเข้าใจต้นตอของปัญหาด้วย ถ้าเราคิดอย่างมีประสิทธิผล ความคิดทุกอย่างก็จะเกิดเป็นการกระทำที่ดี
#10 หาคนมาคอยเตือนสติ – สติคือคำตอบของปัญหาทางจิตใจทุกอย่าง ขอเพียงเรามีสติแล้วก็คงไม่ต้องคิดมากขนาดนี้ แต่บางครั้งสติก็ไม่ได้จำเป็นต้องมาจากข้างในของเราอย่างเดียว ถ้าเรามีคนที่ดีอยู่รอบตัวเราก็ควรพึ่งพาคนพวกนั้นให้คอยเตือนสติเราเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามเราก็ควรเคารพคำแนะนำและการตัดสินใจของคนรอบข้างด้วย คนรอบข้างพร้อมที่จะเตือนสติเรา เราก็ควรเปิดใจยอมรับฟังและพนายามแก้ไข
อาการคิดมากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน เป็นสิ่งที่มีมานานแล้วแล้วก็คงเป็นสิ่งที่อยู่กับมนุษย์ตลอดไปหลายร้อยหลายพันปี เราอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ไปตลอดกาล แล้วก็สามารถหากระบวนการที่จะช่วยเราดับความคิด เวลาเราคิดมาก เพื่อที่เราจะสามารถตอบโต้และแก้ปัญหาในใจของเราได้เรื่อยๆ
การคิดไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี ความกลัวก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี หากเราสามารถยอมรับและรับรู้สภาพจิตใจสภาพความคิดของตัวเอง เราก็สามารถเปลี่ยนทุกอย่างมาเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองได้
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...