คุณค่าของคนคืออะไร เมื่อคุณได้อ่านประโยคนี้ คุณกำลังคิดอยู่ใช่ไหมครับว่า คุณค่าของคนนั่นหมายถึง คุณค่าของชีวิตหรือเปล่านะ และอาจคิดต่อว่าคุณค่าของชีวิตคุณคืออะไร คุณเกิดมาทำไม คำถามนี้ช่างเป็นนามธรรมซะเหลือเกินใช่ไหมครับ บทความนี้จะชวนคุณมาค้นหาคำตอบว่าแท้จริงแล้ว คุณค่าของคนคืออะไร
คนเราตั้งแต่แรกเริ่มเกิดมานั้นไม่ได้มีคุณค่าในตัวเองหรือมีสิ่งใดทั้งสิ้น คุณค่าที่เรามักพูดถึงกันเกิดจากการที่เราสร้างสิ่งต่างๆให้มีความหมายขึ้นมา สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนสร้างขึ้นมาบนโลกใบทั้งนั้น หากมองในมุมความเป็นจริงทางปรัชญาอย่างถึงแก่นแล้ว คุณค่าคือสิ่งที่มนุษย์นิยามนั่นเอง
คุณค่าของคนคืออะไร? วัดได้จากอะไรบ้าง
ในสภาพสังคมปัจจุบัน นิยามของคุณค่าของคนก็คงหนีไม่พ้นเรื่องภายนอก เช่น วัตถุสิ่งของ ความร่ำรวย เงินทอง ความสำเร็จต่างๆ ทั้งในด้านชีวิตส่วนตัว การเงิน การงาน การมีชื่อเสียง และอีกมากมาย เป็นเครื่องตัดสินว่าคนๆนั้นมีค่าหรือไม่
บทความนี้ขอพูดถึงคุณค่าภายในขั้นพื้นฐานของมนุษย์ (Personal Core Value) คือ คุณค่าที่เราให้ความสำคัญหรือยึดไว้ในบางสถานการณ์หรือในระยะเวลาหนึ่งเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งแต่ละคนอาจให้ความสำคัญเหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ และสิ่งที่ทำให้คน ๆ หนึ่งมีความสุขอาจทำให้อีกคนรู้สึกกังวลหรือไม่ชอบก็เป็นไปได้
คุณค่าภายในที่มักพบมีอะไรบ้าง?
1. การยอมรับ
การยอมรับ คือ ความสามารถในการยอมรับสิ่งต่างๆรอบตัวที่คุณสามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ คุณยอมรับได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่าง บางสถานการณ์ในโลกใบนี้ที่คุณควบคุมมันไม่ได้ เมื่อมันเกิดขึ้นคุณสามารถยอมรับได้ และไม่โทษตัวเอง สามารถเข้าใจความเป็นไปของสิ่งนั้นและยังคงใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
2. ความสามารถในการปรับตัว
ความสามารถในการปรับตัว คือ การที่คุณไม่ยึดติด สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้ พร้อม และยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชีวิตยังคงดำเนินต่อไปได้
3. การตระหนักรู้
การตระหนักรู้ คือ การที่คุณมีความสามารถในการเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจสังคมรอบตัว
4. ความสงบ
ความสงบ เป็นสิ่งที่ใครหลายคนหลงลืมไปว่าแท้จริงแล้วความสงบเป็นสิ่งที่มีค่า สามารถทำให้คนเราใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีสติ
5. การเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
เราทุกคนเป็นสัตว์สังคม แม้ว่าบางคนอาจจะชอบอยู่คนเดียวก็ตาม และสังคมเป็นค่านิยมที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิต เราทุกคนล้้วนอยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และใฝ่ฝันอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่ม
6. ความเห็นอกเห็นใจ
ความเห็นอกเห็นใจ คือ ความเข้าใจต่อเรื่องราว ความทุกข์ ความเจ็บปวด ของผู้อื่น และมีความปรารถนาที่อยากช่วยเหลือให้คนเหล่านั้น ผ่านพ้นเรื่องราว ความทุกข์ ความเจ็บปวดไปได้
7. ความมีระเบียบวินัย
อย่างที่เรารู้กันดีว่าความมีระเบียบวินัยจะนำพาคุณไปสู่ชีวิตที่คุณต้องการ เช่น หากคุณมีวินัยในการออกกำลังกายสุขภาพของคุณก็จะเป็นไปตามที่คุณต้องการ
8. อิสรภาพ
อิสรภาพเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักสูงสุดที่ควรมี การมีอิสระในการเลือก มีเสรีภาพในการพูด มีอิสระในการดำเนินชีวิตตามเงื่อนไขของตัวเอง ตลอดจนอิสระที่จะรักและเป็นที่รัก
9. ความสุข
ความสุขเป็นค่านิยมที่ทรงพลังและไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความสุขของคุณเองเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเพื่อนและครอบครัวด้วย คำนิยามของความสุขของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันออกไป แต่ความสุขเป็นตัวชี้นำการตัดสินใจของคุณมากกว่าเรื่องผิวเผิน เช่น เงิน อาชีพ
10. สุขภาพ
สุขภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของค่านิยมเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าสุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การมีสุขภาพที่ดีทำให้เราสามารถมีแรง มีพลัง ในการทำสิ่งต่างๆ ตามที่เราปรารถนา
11. ความเป็นผู้นำ
ความเป็นผู้นำต้องใช้ความกล้า ความมุ่งมั่น และความมั่นใจ คุณสมบัติทั้งหมดนี้มีทั้งหายากและน่าชื่นชม เป็นเหตุผลว่าทำไมความเป็นผู้นำจึงเป็นค่านิยมที่หลายคนอยากมี
12. ความรัก
ความรักความต้องการเป็นที่รัก เมื่อคุณให้ความสำคัญกับความรักอย่างลึกซึ้งและแสดงให้เห็นในทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อใครสักคน ทำให้โลกของคุณและโลกของผู้อื่นน่าอยู่ขึ้นมาก
13. สันติภาพ
สันติภาพช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนมีอิสระในความคิดและการกระทำ
14. เป้าหมาย
เป้าหมาย คือ สิ่งที่ทำให้คุณมีแรงลุกจากที่นอนในทุกเช้า หากคุณไม่มีจุดมุ่งหมายก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คุณจะพบความหมายในชีวิตของคุณ
15. จิตวิญญาณ
จิตวิญญาณไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา แต่หมายถึงการใช้เวลาในการฟังร่างกายของคุณ เฝ้าดูความคิดของคุณเพื่อเชื่อมต่อและชื่นชมโลกภายในที่คุณค้นพบในตัวเอง
16. ความเข้าใจ
ความเข้าใจเกิดจากการยอมรับในสิ่งที่เป็น ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็นหรือเป็นไปได้ เป็นความสามารถในการรับรู้มุมมองของคนอื่นโดยไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลง เป็นการเรียนรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้กับโลกและผู้คนอื่น ๆ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
17. ความมั่งคั่ง
ความมั่งคั่งไม่ใช่ในแง่ของตัวเงิน แต่เป็น ‘การมีทุกสิ่งที่คุณต้องการ’ คนที่ร่ำรวยอย่างแท้จริงมีความสัมพันธ์ที่ดีมีอิสระมากมายในการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและคุณค่าอื่น ๆ
ผู้เขียนขอสรุปว่า คุณค่าของคนคือ สิ่งที่เรานิยามขึ้นมา และคำนิยามนั้นเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ทำให้เรามีความสุข และส่งผลต่อทิศทางในการดำเนินชีวิตของเรานั่นเอง
คุณค่าของคนวัดจากอะไร
มาตรวัดในการวัดคุณค่าของคนนั้นช่างยากเสียเหลือเกิน หากใครได้อ่านบทความนี้ก็คงคิดว่าผู้เขียนเป็นใคร ทำไมถึงกล้าวัดหรือตัดสินคุณค่าของคนอื่น เรามักได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ค่าของคน…อยู่ที่ผลของงาน” ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานจริงไหม? แล้วถ้าผลงานออกมาไม่ดีเราจะยังมีคุณค่าหรือเปล่า?
เราทุกคนต่างก็มีไม้วัดคุณค่าที่แตกต่างกันออกไปตามรูปแบบการเลี้ยงดู ตามประสบการณ์เดิมที่เคยได้รับมา วันนี้ผมขอเสนอคำถามที่จะช่วยให้คุณวัดคุณค่าของตัวคุณเองได้มีดังนี้
1. อะไรสำคัญสำหรับชีวิตคุณ?
2. หากคุณสามารถประกอบอาชีพใดก็ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินหรือข้อจำกัด ในทางปฏิบัติอื่น ๆ คุณจะทำอะไร?
3. เมื่อคุณอ่านหนังสือ หรือเรื่องราวแบบใดที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ
4. เรื่องราวหรือพฤติกรรมแบบไหนที่ทำให้คุณโกรธ?
5. คุณต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรเกี่ยวกับโลกหรือเกี่ยวกับตัวคุณเอง?
6. คุณภูมิใจในเรื่องใดมากที่สุด?
7. คุณมีความสุขที่สุดตอนไหน?
มีหลายวิธีที่คนเราใช้เป็นมาตรวัดความมีคุณค่า และต้องบอกเลยว่าบางวิธีการวัดช่างเป็นวิธีที่โหดร้าย ไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของคุณเหลือเกิน โดย 5 วิธีวัดคุณค่าของคนที่พบได้บ่อย ดังนี้
1. คุณอยู่ท่ามกลางใคร
หลายครั้งที่เราใช้บุคคลรอบข้างเป็นไม้วัดว่าเรามีคุณค่าหรือไม่ เราได้รับคำชมจากคนอื่นมากแค่ไหน เราได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนสำคัญ คนเก่ง ที่อาจมีชื่อเสียง มีความสำเร็จ หรือแม้กระทั่งมีความร่ำรวย หากเราได้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มบุคคลเหล่านี้ แสดงว่าเราก็มีคุณค่า ตัวอย่างง่ายๆในปัจจุบันที่เราเห็นได้ง่าย เช่น การมียอดไลค์ ยอดแชร์ จำนวนเพื่อนในโซเซียลมีเดียเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามการนำคุณค่าในตนเองของคุณไปผูกติดกับผู้อื่นก็เหมือนกับการไล่ตามเป้าหมายที่เคลื่อนไหว คุณไม่สามารถควบคุมคนอื่นได้และคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ตลอดเวลา หากคุณยึดคุณค่าในตัวเองทั้งหมดจากมุมมองความคิดของคนอื่น คุณจะไม่มีทางได้รับคำชมหรือการเสริมแรงในเชิงบวกตลอดเวลา เท่าที่ใจคุณต้องการ มากพอที่จะรู้สึกดีกับตัวเองไปได้ตลอดแน่นอน
2. สิ่งที่คุณทำ
อาชีพ หน้าที่การงาน ช่วยให้หลาย ๆ คนรู้สึกมีคุณค่า บางคนเมื่อได้ยินคำถามว่า “คุณค่าของชีวิตคืออะไร” พวกเขาสามารถตอบได้อย่างรวดเร็ว “ฉันเป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ” หรือ“ ฉันเป็นทนายความ” ไม่ใช่เพราะเป็นสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เป็นเพราะพวกเขาเป็นใคร อาชีพของพวกเขาตอกย้ำให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็น“ ใครบางคน”
การให้คุณค่าในตัวเองกับตำแหน่งงานถือเป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ ปัญหาสุขภาพภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในตลาดแรงงานอาจรบกวนอาชีพของคุณและนำไปสู่วิกฤต การระบุตัวตนจากอาชีพหรือหน้าที่การงานของคุณอาจได้รับการสั่นคลอนได้ แม้แต่การเกษียณอายุที่ได้วางแผนหรือรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วก็ตาม อาจสร้างความหายนะให้กับคุณค่าในตนเองได้ หากตัวตนของคุณถูกผูกติดกับตำแหน่งงานของคุณ ในกรณีที่ไม่มีอาชีพที่มีชื่อเสียงคุณจะไม่สามารถรู้สึกดีกับตัวเองได้หากคุณวัดคุณค่าในตัวเองด้วยสิ่งที่คุณทำอยู่เสมอ
ตัวอย่างที่เราสามารถหาดูได้ง่ายนั่นก็คือ ในปัจจุบันรัฐบาลและเอกชนหลายแห่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเห็นคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุมากขึ้น และมีการรณรงค์ให้หน่วยงานต่างๆ รับผู้สูงอายุเข้าทำงาน เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึก น้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกว่าตนเองเป็นคนแก่ที่ไร้ค่า ไร้ประสิทธิภาพ
3. คุณมีเงินเท่าไหร่
เราทุกคนเคยพบเจอผู้คนที่วัดคุณค่าในตัวเองจากจำนวนเงินในบัญชี การใช้จ่ายเงินที่ดูมีความมั่งคั่งร่ำรวย จนกลายเป็นต้องดูดี ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม จนหลายจนเลือกสร้างหนี้สิน โดยหวังว่ารถหรูหรือบ้านที่สวยงาม เพื่อให้เบื้องหน้า ดูดี เพื่อพิสูจน์ความมีคุณค่าของตนเองช่วยให้พวกเขารู้สึกดีกับตัวเอง
4. สิ่งที่คุณบรรลุเป้าหมาย
บางครั้งเรามักคิดว่าผู้คนต้องการเป็นที่รู้จก และต้องการรู้จัก เฉพาะคนที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น คนที่มักพูดถึงความสำเร็จของตัวเอง เป็นคนที่น่าสนใจ มีแต่คนสนใจ และให้ความสำคัญกับพวกเขา และคนเหล่านั้นจะรู้สึกดีกับตัวเองเมื่อได้พูดถึงความสำเร็จของพวกเขา
แต่ในทางกลับกันหากเรานำคุณค่าของเราไปผูกติดกับการบรรลุเป้าหมาย ความสำเร็จ คนเราจะไม่สามารถหยุดเอาชนะตัวเองได้ และในช่วงเวลาที่พบเจอกับความล้มเหลวอาจต้องดิ้นรนเพื่อเดินหน้าต่อไปเพราะเหตุการณ์นั้นบดบังคุณค่าในตัวเองอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าความสำเร็จของคุณจะทำให้คุณรู้สึกดีและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า แต่การวัดคุณค่าในตัวเองทั้งหมดจากความสำเร็จของคุณก็เหมือนกับการสร้างบ้านบนรากฐานที่ไม่มั่นคง คุณจะต้องประสบกับความสำเร็จซ้ำ ๆ เพื่อที่จะรู้สึกดีกับตัวเอง และนั่นเป็นเรื่องยากที่จะรักษาไว้ในระยะยาว
5. คุณดูเป็นอย่างไร
เคยไหมครับที่เวลาจะออกไปไหนสักที่ใช้เวลาเตรียมเสื้อผ้า หน้าผม เป็นเวลาหลายชั่วโมง และยิ่งในงานสำคัญที่ต้องออกไปพบปะผู้คน การพยายามดูดีไม่ใช่รื่องดปลกอะไรหรอกครับ ใครๆก็อยากสวย อยากหล่อ ด้วยกันทั้งนั้น แต่เคยสังเกตุตัวเองกันบ้างไหม ว่าเราอยากดูดีเพื่ออะไร เพื่อเห็นตัวเองแล้วยิ้ม หรือเพื่อได้รับคำชม การโพสรูป แล้วมีคนกดไลค์เยอะๆ บางคนก็กำหนดคุณค่าของตนตามความสามารถในการดึงดูดความสนใจด้วยรูปลักษณ์ของตน
หากคุณโชคดีพอที่จะได้รับพรด้วยความดูดีความงามของคุณอาจเป็นข้อได้เปรียบในชีวิต แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาหรือร่างกายที่สวยงามจะไม่คงอยู่ตลอดไป ริ้วรอยจะเริ่มเกิดขึ้นในวัยกลางคน ผมหงอกหรือเส้นผมที่บางลงในวัยที่มากขึ้นอาจกลายเป็นหายนะสำหรับทุกคนที่คุณค่าในตัวเองขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพของพวกเขา
จาก 5 วิธีวัดคุณค่าของคนที่พบได้บ่อย ซึ่งเป็นวิธีที่อันตรายมาก ดังนั้นผมอยากชวนคุณกลับมาวัดคุณค่าในตนเองด้วยการสร้างความรู้สึกที่ดีที่เป็นคุณ คุณมีคนเดียวในโลก มีชีวิตที่คุณสามารถสร้างสรรค์ และความรู้สึกของคุณเกี่ยวกับตัวคุณเอง ตระหนักรู้ว่าคุณใช้ไม้วัดอะไร และวัดเพื่ออะไร การทำเช่นนั้นจะช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติตนตามค่านิยมแทนที่จะไล่ตามสิ่งที่จะเพิ่มความนับถือตนเองชั่วคราว
เมื่อคุณรู้ว่าคุณเป็นใครและพอใจกับคนๆนี้ คุณจะมีความสงบสุขตลอดชีวิต อย่านำตัวเองไปผูกติดกับคุณค่าที่คนอื่นสร้างขึ้น แต่จงรู้สึกดีในความเป็นคุณ
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...