การใช้ชีวิตแบบพอเพียงและเรียบง่ายคือสิ่งที่เราถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก
ความหมายของชีวิตแบบนี้อาจจะต่างกันสำหรับแต่ละคน แต่อย่างไรก็ตามหัวใจของการใช้ชีวิตแบบนี้คือการเลิกทำสิ่งที่ไม่สำคัญในชีวิตเรา
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่ไม่วุ่นวายใช่ไหมครับ? เพราะฉะนั้นเราก็ควรแบ่งเวลาของเราให้แต่สิ่งที่มีความหมายสำหรับเราจริงๆ
ชีวิตพอเพียงและเรียบง่าย
การใช้ชีวิตพอเพียงคือการลดสิ่งที่เราทำอยู่เพื่อแบ่งเวลามาใช้กับคนที่เรารักหรือทำสิ่งที่เราชอบ ซึ่งหมายความว่าเราต้องหาวิธีขจัดสิ่งวุ่นวายและไม่จำเป็นออกไปจนชีวิตเราเหลือแต่สิ่งที่มีค่าสำหรับเราเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่พอเพียงและเรียบง่ายนั้นไม่ได้ทำได้ง่ายอย่างที่ชื่อบอกเลย เส้นทางสู่ชีวิตที่ไม่วุ่นวายของเราอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่าง ของบางอย่างเราก็คงไม่สามารถปล่อยวางได้ทันที ของบางอย่างเราก็อาจจะคิดว่ามันยังสำคัญอยู่
แต่ไม่เป็นหรอกครับ ตราบใดที่เราเข้าใจคุณค่าของชีวิตที่พอเพียงแล้ว เราก็แค่ต้องพยายามปรับปรุงชีวิตของเราทีละเล็กละน้อย ผ่านไปไม่นานคุณก็จะเริ่มสังเกตุได้เองว่าหลายอย่างในชีวิตคุณนั้น ‘เรียบง่าย’ ขึ้นเยอะ
วิธีใช้ชีวิตพอเพียง…แบบสั้น
วันนี้ผมมีวิธีมาแนะนำมากถึง 72 แบบ แต่สำหรับคนที่รู้สึกว่ามันยาวไปไม่เรียบง่ายเลย ผมก็จะสรุปมาให้ฟังง่ายๆแทน วิธีใช้ชีวิตพอเพียงแบบสั้นสองขั้นตอนคือ
- หาสิ่งที่สำคัญในชีวิตคุณ
- เลิกทำทุกอย่างที่ไม่อยู่ในข้อแรก
ขั้นตอนข้างบนอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไรถ้าคุณไม่รู้วิธีปรับให้เข้ากับแต่ส่วนของชีวิตคุณ เพราะฉะนั้นเราไปดูวิธีใช้ชีวิตพอเพียงและเรียบง่ายแบบยาวกันดีกว่า
72 วิธีใช้ชีวิตพอเพียงและเรียบง่าย ที่เราเริ่มได้ทันที
ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นขั้นตอนการลดความวุ่นวายในชีวิตของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกันเช่นกัน ผมแนะนำว่าคุณควรลองศึกษาวิธีแต่ละข้อเพื่อดูว่าวิธีไหนเหมาะกับชีวิตของคุณตอนนี้มากที่สุด คงไม่ใช่ทุกวิธีที่อาจจะใช้ได้ผลสำหรับคุณ แต่คุณสามารถเลือกได้เสมอครับ
ก่อนอื่นเลย หากอ่านรายการไหนแล้วรู้สึกว่าทำไม่ได้ หรือ ฟังดูยุ่งยากไปก็ไม่ต้องห่วงไปครับ ผมมีหลายวิธีให้เลือก ค่อยๆอ่านแล้วหาวิธีที่จะมาใช้ปรับเข้ากับชีวิตเราก็พอ
เป้าหมาย ภาระ และ ความพอเพียง
#1 เขียนออกมาว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตคุณบ้าง เขียนออกมาซัก 4-5 หัวข้อว่าอะไรสำคัญในชีวิตคุณบ้าง คุณคิดว่าอะไรมีค่าที่สุด อยากได้อะไรที่สุดในชีวิตนี้ การทำให้ชีวิตเราเรียบง่ายก็เริ่มจากการเข้าใจสิ่งพวกนี้ เราต้องหาที่ให้สิ่งพวกนี้ก่อนแล้วค่อยเริ่มหาเวลาให้อย่างอื่นในชีวิต ตั้งใจทำข้อนี้หน่อยนะครับ เพราะเราจะกลับมาดูลิตส์นี้เรื่อยๆเลย
#2 ประเมินภาระของคุณ ทุกคนมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบในขีวิตไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะต้องทำงานหาเงิน บางคนอาจจะต้องไปรับส่งลูกที่โรงเรียน สิ่งพวกนี้มีความสำคัญต่อชีวิตของคุณยังไง และมีอะไรที่เราชอบทำหรือเปล่า ให้ลองดูว่าภาระแต่ละอย่างมีอะไรที่ ‘ไปคู่กัน’ กับสิ่งสำคัญในข้อข้างบนได้บ้าง ภาระไหนที่ไม่สำคัญก็ให้เลือกทำได้เลยครับ
#3 ประเมินเวลาของเรา ปกติคุณใช้เวลากับอะไรบ้าง คุณทำอะไรบ้างตั้งแต่ตื่นนอนถึงกลับไปนอนใหม่อีกรอบ ให้คุณจดกิจกรรมแต่ละอย่างออกมาแล้วประเมินดูว่ากิจกรรมแต่ละอย่างมีคุณค่ามากพอหรือเปล่า กิจกรรมที่ไม่ช่วยให้คุณเข้าใกล้สิ่งสำคัญในชีวิตหรือสิ่งที่คุณอยากได้ก็ให้หาวิธีตัดทิ้งโดยเร็ว ออกแบบชีวิตคุณใหม่
#4 ทำให้งานของคุณเรียบง่ายขึ้น ส่วนมากแล้วงานก็มีให้ทำเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้นหรอกครับ ถ้าเราแค่ทำงานทุกอย่างที่เราได้รับมา เราก็คงทำไม่เสร็จซักทีหรืออาจจะไม่มีเวลาทำงานที่สำคัญด้วยซ้ำ เราควรโฟกัสกับงานที่สำคัญที่สุดก่อน ส่วนงานที่เหลือหากทำไม่เสร็จก็ปล่อยไป
#5 งานบ้านของคุณก็ควรเรียบง่ายขึ้นด้วย ให้ลองคิดถึงงานที่ต้องทำที่บ้านดู บางครั้งการทำความสะอาด ซื้อกับข้าวก็อาจจะยุ่งยากพอๆกับการทำงานประจำเลยก็ได้ และแน่นอนว่าส่วนมากเราก็ทำไม่จบไม่สิ้นเช่นกัน คุณควรโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดด้วย และหาวิธีลดงานบ้านส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างคน การติดตั้งระบบอะไรซักอย่าง การกระจายงาน หรือเลือกที่จะไม่ทำเลยก็ได้
#6 รู้จักการปฏิเสธ การเราอยากจะทำให้ชีวิตมีความพอเพียงเราต้องรู้ที่จะปฏิเสธความวุ่นวายที่ไม่จำเป็นในชีวิตของเรา หากเราไม่ปฏิเสธเราก็จะมีสิ่งที่อยากได้หลายอย่าง สิ่งที่ต้องทำเพิ่มหลายอย่าง ทั้งๆที่สิ่งพวกนั้นไม่ได้ตรงกับสิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญจริงๆ
#7 จำกัดการสื่อสาร ทุกวันนี้ชีวิตของเรามีแต่การสื่อสารทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอีเมล sms โทรศัพท์ เฟสบุ๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ หรือแม้แต่จดหมายธรรมดาด้วย บางครั้งถ้าเรามัวแต่ตอบอีเมลหรือตอบไลน์ เวลาของเราก็หมดไปหนึ่งวันแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องจำกัดการสื่อสารแต่ละวันของเรา ยกตัวอย่างเช่นให้ตอบอีเมลแค่วันละหนึ่งชั่วโมงพอ หรือ ให้โทรศัพท์แค่ตอนเย็นเท่านั้นเป็นต้น เราควรจะหาตารางเวลาที่เหมาะกับเราที่สุดและตั้งใจทำให้ได้
#8 ลดการเสพสื่อต่างๆ หากการเสพสื่อเช่นติดตามข่าวเป็นส่วนหนึ่งของงานของคุณ เราก็คงแก้อะไรไม่ได้มาก แต่สำหรับคนส่วนมาก การเสพพวกสื่ออย่างทีวี วิทยุ อินเตอร์เนต นิตยสาร ต่างๆ จะกินเวลาของเราแต่ละวันได้เยอะกว่าที่คิด ความพอเพียงคือการทำให้ชีวิตของเราเรียบง่าย และเราสามารถเริ่มได้จากการบริหารเวลาว่างของเรา
สิ่งของ
#9 ของที่เราไม่ได้ใช้ ทุกๆครึ่งปีให้ลองสละเวลามาจัดของที่เราไม่ได้ใช้ดูครับ มันเป็นความรู้สึกที่ฟินมาก เตรียมกล่องหรือถุงขยะมาแล้วก็ทิ้งของที่ใช้ไม่ได้แล้วออกไปให้หมด หรือถ้าคุณใจบุญหน่อยก็นำไปบริจาคก็ได้ หากการทำความสะอาดทั้งบ้านมันเป็นเรื่องใหญ่ก็ให้เริ่มจากอะไรเล็กๆเช่นรถของคุณ หรือ โต๊ะทำงานก็ได้
#10 ของชิ้นใหญ่ หากเราเริ่มทำตามขั้นตอนข้างบนแล้วรู้สึกว่ามีที่ให้จัดเยอะไปหมด ไม่รู้จะเริ่มยังไง เราก็ควรเริ่มจากของชิ้นใหญ่ๆก่อน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ใช้ หรือ ลู่วิ่งที่มีไว้ตากผ้า เวลาเราเอาของชิ้นใหญ่ออกไปเราก็จะรู้สึกโล่งขึ้นเยอะ
#11 ความเรียบง่ายในห้อง ให้จัดทีละห้องและจัดการกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
#12 ตู้เและลิ้นชัก หลักจากนั้นให้มาดูตู้เสื้อผ้ากับลิ้นชักของแต่ละห้อง
#13 เสื้อผ้าที่ไม่ใช้ ถ้าเราเห็นว่าเสื้อผ้าเราเริ่มเต็มตู้ หรือไม่มีที่เก็บแล้ว เราก็ควรทำให้ตู้เสื้อผ้าของเราเรียบง่ายขึ้น เสื้อตัวไหนที่ไม่ได้ใส่หรือใส่ไม่ได้ก็ให้บริจาคหรือทิ้งไปก่อน คุณอาจจะเลือกเก็บแต่เสื้อผ้าสไตล์ง่ายๆมีไม่กี่สีเพื่อความเรียบง่ายในการแต่งตัวภายหลังด้วย
#14 คอมพิวเตอร์ หากคุณเป็นคนที่ใช้ชีวิตบนคอมพิวเตอร์เป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว คุณก็อาจจะมีไฟล์หรือโปรแกรมเยอะเป็นพิเศษ การที่เราจัดพวกไฟล์พวกนี้นอกจากจะทำให้คอมของเราเร็วขึ้นแล้ว เรายังรู้สึกดีขึ้นด้วย
#15 มือถือ นอกจากคอมพิวเตอร์เราก็สามารถจัดมือถือของเราได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอพต่างๆที่เราโหลดมาแล้วไม่ได้ใช้งาน ในยุคสมัยนี้ทุกคนคงมี smartphone กันเป็นส่วนมากแล้ว การลบแอพที่เราไม่ได้ใช้งานมาสามสี่เดือนแล้วก็ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ
การจัดการ
#16 เขียนแนวทางการใช้ชีวิต คุณมองว่าชีวิตที่พอเพียงและเรียบง่ายในแบบของคุณเป็นยังไง ให้ลองเขียนออกมาเพื่อเป็นการเตือนตัวเองครับ
#17 จำกัดการใช้จ่าย หากคุณคิดว่าคุณใช้จ่ายที่ไร้ประโยชน์เยอะก็ให้ลองควบคุมตัวเองดู ของบางอย่างที่ไม่ต้องใช้ก็ยังไม่ต้องซื้อก็ได้ ผมไม่ได้บอกว่าคุณต้องทรมารตัวเองด้วยการขายบ้านขายรถแต่แค่ให้ลองลดสิ่งที่อาจจะไม่ได้จำเป็นมากออกไปจากการใช้จ่ายแต่ละวันดู
#18 จัดเวลาว่าง กลับไปดูสิ่งสำคัญที่คุณคิดไว้ในข้อแรก ให้คุณพยายามหาเวลามาทำสิ่งพวกนั้น ซึ่งก็หมายความว่าคุณต้องเลิกทำสิ่งที่คุณไม่ชอบ
#19 ทำสิ่งที่คุณรัก ต่อจากข้อที่แล้วให้ลดกิจกรรมที่ ‘เสียเวลา’ และ หาเวลาว่างให้สำหรับสิ่งที่คุณชอบจริงๆ
#20 เวลากับคนที่คุณรัก ลิตส์ข้อหนึ่งของคุณอาจจะมี 4-5 อย่างที่คุณอยากทำกับคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นแฟน ลูก ครอบครัว เพื่อน หรือใครก็แล้วแต่ ให้คุณหาเวลาให้กับคนพวกนั้น คุณจะแค่พูดคุยกับเฉยๆ หรือพากันไปทำกิจกรรมอะไรก็ได้ครับ
#21 เวลากับตัวเอง หาวิธีสร้างเวลาให้ตัวเองบ้าง บางคนอาจจะไม่คุ้นกับการอยู่คนเดียวแต่การให้เวลากับตัวเองคือการฝึกให้เรารักความสงบและฝึกฟังความคิดความรู้สึกของตัวเอง มันอาจจะฟังน้ำเน่านิดหน่อย แต่ความสงบคือจุดเริ่มต้นของการค้นหาสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ
การใช้ชีวิต
#22 กินข้าวให้ช้าลง อาจจะฟังดูเป็นวิธีที่แปลกไปหน่อย แต่ถ้าเรากินข้าวเร็วไปนอกจากจะมีปัญหาด้านสุขภาพแล้วเรายังมีความสุขกับชีวิตน้อยลงด้วย กินข้าวให้ช้าลงเพื่อรับรสชาติอาหารให้มากขึ้น น้ำหนักของคุณจะลดลง การย่อยอาหารของคุณจะดีขึ้น และชีวิตของคุณจะมีความสุขมากขึ้นครับ
#23 การขับรถ บางคนขับรถเร็ว บีบแตร แล้วก็โมโหทุกครั้งที่รถติดหรือโดนปาดหน้า การขับรถโดยใช้อารมณ์นอกจากจะอันตรายต่อตัวเองแล้วยังทำให้คนอื่นมีอันตรายอีกด้วย การขับรถให้ช้าลงมีประโยชน์ต่อค่าน้ำมันของคุณ ช่วยให้รถคุณมีอายุการใช้นานมากขึ้น และ ทำให้ใจของคุณสงบมากขึ้นด้วย
#24 สติ อาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตพอเพียงเลย การอยู่กับปัจจุบันและใช้สติในชีวิตทำให้เราสามารถมีความสุขกับตัวเองและสิ่งรอบข้างได้มากขึ้น ในเวลาที่คุณรู้สึกเศร้า โมโห หรือตกต่ำ สติจะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น
#25 สร้างระบบในชีวิตของคุณ หลายครั้งที่เราอาจจะต้องเผชิญอะไรที่เราคาดไม่ถึงหรือยุ่งยากกว่าที่คิดเพราะเราไม่ได้วางแผนรับมือไว้ก่อน หากเรามีสร้างระบบให้ชีวิตตัวเอง เช่นจัดเวลาทำงาน จัดเวลาพักผ่อน จัดเวลาซักผ้า ชีวิตของเราก็จะมีระบบมากขึ้น และ เราก็จะมีเวลามารับมือสิ่งที่เราคาดไม่ถึงได้ดีขึ้นด้วย สร้างระบบให้กับชีวิตคุณและพยายามทำตามระบบนี้ทุกวัน
งานประจำวัน
#26 จดหมายและเอกสารต่างๆ ถ้าเราไม่มีระบบ จดหมายหรือเอกสารต่างๆจะกองเยอะขึ้นเรื่อยๆทุกอาทิตย์ เราแค่ต้องหาเวลามาจัดจดหมายและเอกสารเรื่อยๆทุกอาทิตย์ก็พอครับ
#27 งานบ้าน งานบ้านก็ใช้ระบบเดียวกับจดหมายและเอกสารเลยครับ เราแค่ต้องแบ่งเวลาแต่ละอาทิตย์มาเพื่อดูแลให้เป็นระบบ
#28 โต๊ะทำงาน ถ้าคุณเป็นคนที่เอกสารเยอะแยะเต็มโต๊ะไปหมด คุณอาจจะรู้สึกว่างานยุ่งหาของไม่ซักที บางทีโต๊ะที่รกเกินอาจจะทำให้เรารู้สึกเครียดด้วยซ้ำ โต๊ะที่สะอาดเรียบร้อยเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่ายและมีผลดีต่อชีวิตมากครับ
#29 กิจวัตรประจำวัน เราควรนำข้อแนะนำต่างๆมาจัดเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่นกิจวัตรตอนเช้า กิจวัตรการจ่ายบิลต่างๆ และกิจวัตรตอนเย็นเป็นต้น
#30 อีเมล มันเป็นเรื่องธรรมดาที่อีเมลของคุณจะเต็มไปด้วยเมลขยะและโฆษณาต่างๆ ให้หาเวลามาจัดการสร้างระบบให้กับอีเมลของเรา อีเมลไหนที่เราควรจะอ่านและอีเมลไหนที่เราควรลบทิ้ง เราจำเป็นต้องยกเลิกสมาชิคบางเว็บเพื่อลดจำนวนอีเมลหรือเปล่า
#31 การใช้เงิน การกินอยู่ใช้จ่ายอย่างพอเพียงไม่ได้หมายความว่าเราต้องอดอยากหรือไม่ซื้อของอะไรเลย เราแค่พยายามลดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างเพื่อคงเหลือแต่อะไรที่ง่ายๆที่ยังสร้างความสุขให้กับเราอยู่ แน่นอนว่าการประหยัดขึ้นอยู่กับรายได้ของคุณด้วย บางคนร้อยบาทก็อาจจะถือว่าแพง บางคนหลายพันบาทก็ถือว่าไม่แพง
บ้าน รถ และ ของใช้
#32 Minimalist ในบ้าน เป็นวิธีลดสิ่งของเพื่อความสุขของเราเอง นอกจากจะทำให้ชีวิตเรารู้สึกสงบมากขึ้นแล้ว เรายังไม่ต้องเสียเวลาจัดของหรือทำความสะอาดมากมายด้วย
#33 Minimalist ส่วนอื่น นอกจากเรื่องในบ้านแล้ว เรายังสามารถนำความ minimalist มาใช้กับเรื่องอื่นในชีวิตเช่นการแต่งตัว โต๊ะทำงาน หรือแม้แต่กินอยู่ด้วย
#34 บ้านที่เล็กลง หลังจากที่เราจัดของ ทำความสะอาด และลดของที่ไม่จำเป็นออกไปแล้ว เราอาจจะรู้สึกว่าห้องโล่งมาก ผมไม่ได้บอกว่าเราต้องลดคุณภาพชีวิตของตัวเองแต่แค่หากคุณรู้สึกว่าห้องหรือบ้านของตัวเองมันใหญ่เกินที่จะอยู่ เราก็อาจจะหาทางเลือกที่มีราคาถูกหรือดูแลรักษาง่ายกว่าเดิม หากคุณไม่ใช่คนที่ยึดติดกับขนาดของที่พัก ทางเลือกนี้ก็ไม่แย่เลยครับ
#35 รถที่เล็กลง หากคุณใช้รถที่ใหญ่เกินการใช้งาน คุณก็อาจจะหาตัวเลือกที่ใช้ได้สบายกว่าเดิม รถขนาดเล็กใช้น้ำมันน้อยกว่า มีราคาถูกกว่า ดูแลรักษาสบายกว่า แถมจอดรถได้สะดวกกว่าด้วย หรือถ้าคุณเป็นคนที่มีรถหลายคัน คุณก็อาจจะลดความยุ่งยากในชีวิตด้วยการลดจำนวนรถที่บ้าน หากคุณเป็นคนมีครอบครัวคุณก็ไม่จำเป็นต้องขับรถขนาดจิ๋วก็ได้ แค่หารถที่เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางของคุณที่สุดพอ
#36 คำว่าพอเพียง สังคมเรามีอะไรใหม่ให้เลือกซื้อเสมอ คุณจำเป็นที่ต้องใช้มือถือรุ่นใหม่หรือเปล่า แล้วเสื้อกับรองเท้าต้องมีกี่ชุดถึงจะพอใส่กันนะ ผมเข้าใจว่าความชอบและเงินในบัญชีทุกคนมีไม่เท่ากัน แต่การกลับมามองวิธีใช้เงินของตัวเองแล้วตีเส้นดูว่า ‘เท่าไรถึงพอ’ ก็จะทำให้ชีวิตคุณวุ่นวายน้อยลง
อาหารและสุขภาพ
#37 เมนูอาหาร เมนูอาหารเป็นอะไรที่เราใช้เวลาคิดเยอะมากทุกอาทิตย์ใช่ไหมครับ ให้ลองดูว่าคุณจะคิดเมนูอาหารประจำแต่ละอาทิตย์ได้ไหม คุณอาจจะไม่ต้องคิดเมนูทุกมื้อก็ได้ อาจจะเริ่มจากการคิดหนึ่งถึงสองมื้อต่ออาทิตย์ก็พอ นอกจากจะเป็นการง่ายในการซื้อกับข้าวแล้วเรายังสามารถคุมสารอาหารที่สำคัญต้องร่างกายของเราได้ด้วย
#38 สารอาหาร สารอาหารเป็นสิ่งที่คนอาจจะไม่ได้คำนึงถึงมากนัก คนส่วนมากคิดแค่ว่าลดแป้งลดน้ำตาลหรือกินผักก็เพียงพอแล้ว แต่การกินของเค็ม ของมัน หรือ ของทอดมากเกินไปก็ทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงในระยะยาวด้วย ถ้าคุณไม่คิดเรื่องสารอาหารบ้าง เวลาคุณเริ่มมีอายุหน่อยคุณจะมีปัญหาด้าน คอเลสเตอรอล และ ความดันครับ ซึ่งก็แปลว่าค่ารักษาพยาบาลและเวลาที่ต้องไปหาหมอก็จะเยอะขึ้นด้วย
#39 สุขภาพและการออกกำลังกาย หากพูดเรื่องอาหารแล้วเราก็ต้องดูเรื่องการออกกำลังกายกันบ้าง ผมคิดว่าทุกคนก็รู้ว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อชีวิตเรามากแค่ไหน การลดน้ำหนักเป็นแค่แรงจูงใจตอนแรกเท่านั้นครับ การออกกำลังกายช่วยลดความเครียดและทำให้คุณรู้สึกดีมากขึ้นได้ด้วย
จัดระเบียบ
#40 ความยุ่งเหยิงและการจัดระเบียบ ส่วนมากเราจัดโต๊ะทำงานเสร็จ พอผ่านไปไม่กี่เดือนมันก็จะกลับมารกยุ่งเหยิงใหม่อีกรอบ ซึ่งก็เท่ากับว่าเราก็ต้องจัดโต๊ะใหม่เรื่อยๆ เราสามารถทำให้ขั้นตอนพวกนี้ง่ายขึ้นด้วยการลดขยะหรือของที่ไม่จำเป็นบนโต๊ะของเรา หากเราลดความยุ่งเหยิงตั้งแต่แรก เราก็จะไม่ต้องจัดภายหลัง วิธีนี้ใช้กับตู้เสื้อผ้า และ ลิ้นชักได้ด้วย
#41 หาที่วางทุกอย่าง อาจจะฟังดูเหมือนคำแนะนำสมัยก่อน แต่วิธีจัดของที่ดีที่สุดก็คือการหาที่วางสำหรับทุกอย่าง นอกจากนั้นแล้วคุณยังลดปัญหาการหาของไม่เจอภายหลังด้วย
จิตใจ
#42 ความพอเพียงภายใน สำหรับบางคนการพูดเรื่องจิต สมาธิ หรือ การเปลี่ยนมุมมองความคิด อาจจะฟังดูน่าเบื่อ แต่หากเราสละเวลามาเพื่อหาความสงบเวลาชีวิตรู้สึกวุ่นวายมากเกินไป มันก็จะเป็นการเยียวยาความรู้สึกของตัวเองได้ดี เราอาจจะไปลองเข้าวัด นั่งสมาธิ หรือหาเวลามาจดบันทึกเรื่องราวแต่ละวันขอตัวเองก็ได้ การให้เวลาเราตั้งสติและจัดการอารมณ์ความคิดของตัวเองมีประโยชน์ในระยะยาวแน่นอนครับ
#43 ความเครียด ต่อให้ชีวิตคุณเรียบง่ายหรือพอเพียงแค่ไหน คุณก็ยังต้องเจอปัญหาและความเครียดในแต่ละวันอยู่ดี คุณต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเครียดและภาระต่างๆให้ได้ อาจจะด้วยการหาความสุขให้ตัวเองหรือเลิกสนใจสิ่งเล็กๆที่ทำให้คุณไม่สบายใจเป็นต้น
#44 ลองเลิกขับรถ ข้อนี้เป็นคำแนะนำส่วนตัวของผมเลย ไม่ว่าจะเป็นการย้ายงานมาใกล้บ้านมากขึ้น หรือพยายามหางานที่เราโดยสารได้โดยไม่ต้องขับรถ การเลิกขับรถเป็นการช่วยประหยัดเวลาได้อย่างดีเลยครับ เราสามารถนำเวลาโดยสารของเรามาคิด ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือทำอะไรก็ได้ที่เราชอบ นอกจากนั้นแล้วค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆยังน้อยลงอีกด้วย
#45 ศิลปะและงานอดิเรก การหาที่ระบายความรู้สึกหรืออารมณ์ของเรา เช่นการเขียน การวาดภาพ ระบายสี หรือ การออกำลังกายก็เป็นกิจกรรมที่ดีครับ กิจกรรมพวกนี้จะทำให้ชีวิตคุณมีความหมายมากขึ้น และ เป็นการฝึกให้สมองของคุณรู้สึกผ่อนคลายจากความยุ่งวุ่นวายส่วนอื่น
#46 เป้าหมายที่เรียบง่าย แทนที่คุณจะมีเป้าหมายหลายอย่าง ให้ลองย่อเป้าหมายพวกนี้ให้เป็นเป้าหมายง่ายๆอย่างเดียว เป้าหมายที่เรียบง่ายจะให้อิสระในการคิดและการทำมากขึ้น ทำให้คุณไม่ต้องเครียดมากว่าจะต้องทำแบบนี้แบบนั้นเท่านั้นเพื่อบรรลุเป้าหมาย นอกจากนั้นแล้วคุณยังจะมีโฟกัสมากขึ้นด้วย ทำให้คุณสามารถตั้งใจทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้ดีกว่า
#47 ทำทีละงาน หลายคนชอบการ multitask หรือการทำหลายๆอย่างพร้อมกันทีเดียว แต่การ mutitask ทำให้เรามีสมาธิน้อยลง ทำงานออกมาได้น้อยลง เพราะฉะนั้นให้เลือกทำทีละอย่างดีกว่า
#48 เอกสารต่างๆ หากคุณยังเป็นคนประเภทที่ชอบกองเอกสารไว้สูงแล้วค่อยมาดูทีเดียว ระบบนี้อาจจะทำให้คุณเสียเวลาเยอะได้ ระบบจัดเอกสารไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเลยครับ แค่ซื้อกล่องมาสองสามใบเราก็สามารถเรียงเอกสารได้ดีขึ้นแล้ว
#49 ใจเย็น ข้อนี้อาจจะทำยากสำหรับบางคน การเลิกโมโหกับเครียดกับสิ่งเล็กๆทุกอย่างในชีวิตคือความสุขของชีวิตที่เรียบง่าย เลิกยึดติดกับอะไรที่ไมาสำคัญและหาความสงบให้กับตัวเอง
#50 ลดการดูโฆษณา ทุกวันนี้ชีวิตเราเต็มไปด้วยโฆษณาทั้งนั้น โฆษณาเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากได้นู่นได้นี่ และมันก็ยั่วเราได้เก่งมากด้วย หาวิธีลดการเสพโฆษณาแล้วชีวิตคุณจะมีความสุข
ในแต่ละวัน
#51 ใส่ใจกับการใช้ชีวิต ให้ใส่ใจกับสิ่งที่คุณทำอยู่ อย่างเร่งรีบมากเกินไป มีความสุขกับทุกขั้นตอนและทุกช่วงเวลา
#52 จดหน้าที่ประจำวัน ในแต่ละวันให้คุณจดมาดูว่ามีสามสิ่งไหนที่คุณต้องทำให้เสร็จให้ได้ในวันนี้ พยายามอย่าทำให้รายการหน้าที่ที่คุณต้องทำมันยาวหรือยุ่งยากจนคนทำไม่เสร็จ ให้เลือกคแ่สามอย่างที่สำคัญที่สุดและคุณต้องทำให้เสร็จให้ได้ก็พอ
#53 เริ่มวันและจบวัน เราอาจจะไม่สามารถควบคุมอะไรหลายอย่างในแต่ละวันของเราได้แต่ถ้าเราสร้างนิสัยและวินัยให้กับชีวิตประจำวันของตัวเอง เราจะรู้สึกว่าชีวิตของเราเรียบง่ายและอยู่ในการควบคุมมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการอ่านหนังสือหนึ่งชั่วโมงก่อนนอน หรือ การหาเวลาทำสมาธิตอนเช้าสิบนาทีเป็นต้น
#54 งานอดิเรกตอนเช้า ก่อนที่คุณจะออกไปทำงานหรือทำธุระ หากคุณสามารถแบ่งเวลาก่อนไปทำงานมาเพื่อทำงานอดิเรกของตัวเอง อาจจะเป็นการเขียน การเล่นดนตรี การออกกำลังกาย หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณจะรู้สึกว่าแต่ละวันของคุณมีค่ามากขึ้น
#55 เรียนรู้ที่จะไม่ทำอะไรเลย คนบางคนนอนอยู่บ้านเฉยๆก็มีความสุขได้ หากคุณสามารถทำใจได้ว่าการอยู่เฉยๆก็มีค่าในตัวเอง คุณก็จะเลือกขวนขวายในอะไรที่ไม่สำคัญต่อคุณครับ
ความสุขกับความเรียบง่าย
#56 หนังสือพัฒนาตัวเอง หนังสือพัฒนาตัวเองจะสอนเรื่องแนวคิดการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย หรืออย่างน้อยก็จะสอนให้เรารู้ที่จะจัดอันดับความสำคัญในชีวิต หากคุณเป็นนักอ่านก็ควรแบ่งเวลามาศึกษาพวกนี้บ้างนะครับ
#57 น้อยแต่มีคุณค่า แทนที่จะเลือกทำทุกอย่าง เก็บทุกอย่างไว้ ให้เลือกเก็บแค่ของที่คุณรัก หรือ ของที่สามารถใช้งานได้นานแทน
#58 ทำความเข้าใจเรื่องความสุข ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือหรืออ่านบทความ สมัยนี้งานวิจัยเรื่องความสุขมีเยอะขึ้นเรื่อยๆครับ สิ่งที่คนเคยคิดว่ามัน ‘จับต้องไม่ได้’ กลายเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ผ่านทางวิทยาศาสตร์แล้ว
#59 ความสุขเล็กน้อยในชีวิต ให้ลองคิดดูว่ามีอะไรที่ทำให้คุณมีความสุขบ้าง อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างของกินหรือการดูวิดิโอตลกๆ ให้เวลาตัวเองเพื่อรับรู้ความสุขพวกนี้ทุกวัน
#60 ข้อความ ข้อความไม่ว่าจะเป็น ไลน์ sms หรือ การแจ้งเตือนในมือถือ บางอย่างก็ไม่จำเป็นต่อชีวิตเราเลย อาจจะเป็นพวกโฆษณาหรือข่าวอะไรพวกนี้ก็ได้ ให้คุณลองดูว่ามีอะไรที่ไม่จำเป็นและเราสามารถ ‘ปิด’ หรือ ‘เลิกติดตาม’ ได้ไหม
#61 ยกเลิกสมาชิก อาจจะเป็นสมาชิกเว็บต่างๆ หรือสมาชิกพวกฟิตเนสที่คุณไม่ได้ไปก็ได้ อะไรที่คุณไม่ได้ใช้ ถึงแม้จะไม่เสียเงินก็ตาม สิ่งพวกนี้มันทำให้ชีวิตคุณวุ่นวายมากขึ้น เป็นข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ที่คุณต้องรับรู้
#62 สวน สำหรับคนที่ปลูกต้นไม้หรือมีสวน ให้ลองดูว่าเราจะทำระบบดูแลให้ดีขึ้นได้หรือเปล่า อาจจะเป็นการติดตั้งระบบจ่ายน้ำอัตโนมัตรหรือหาคนมาดูแลแทนก็ได้
#63 กระเป๋า หากคุณเป็นคนที่กระเป๋าตุงอยู่ตลอดเวลา (ไม่ใช่เพราะเงินเยอะ แต่ของเยอะไปหมด) ให้ลองดูว่ามีอะไรที่เราจะลดได้ไหม อะไรที่ไม่จำเป็นก็เอาออกไปเพื่อลดภาระการแบกของ
#64 ชีวิตออนไลน์ ชีวิตออนไลน์สมัยนี้มีตัวเลือกเยอะมาก บางครั้งเราใช้เวลาในเฟสบุ๊ควันละหลายชั่วโมงเลย หากเราสามารถจำกัดเวลาการเสพสื่อพวกนี้ เราก็จะสร้างเวลาให้ตัวเองได้มากขึ้น
การเงิน
#65 การลงทุนและรายได้ เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความสุขกับเงินเป็นของที่มาคู่กับในระดับหนึ่ง หากเป็นไปได้ให้หาวิธีลงทุนเพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว ชีวิตคุณจะสบายขึ้นเวลาที่แก่ตัวลง
#66 จำกัดงบใช้จ่าย งบพวกนี้จะช่วยคุณตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายได้ดีขึ้น หากคุณไม่เคยทำงบตัวเองมาก่อนเพราะมันยากหรือวุ่นวาย ผมแนะนำให้เริ่มจากอะไรง่ายๆก่อนเช่นงบการกินข้าวนอกบ้านเป็นต้น
#67 ชีวิตการเงิน ลองดูว่าจะทำอะไรให้ส่วนนี้ดีขึ้นได้ไหม ลองศึกษาพื้นฐานด้วยตัวเองดูก่อน หากคุณยุ่งหรือมีเงินให้ดูแลเยอะก็ลองจ้างคนมาช่วยก็ได้
ท่องเที่ยว งาน และ เวลาส่วนตัว
#68 เวลาไปเที่ยว หาวิธีแพ็คของให้เรียบง่ายขึ้น กระเป๋าที่เล็กลงเท่ากับว่าการเที่ยวของคุณจะสะดวกสบายมากขึ้น
#69 อย่าจัดตารางให้แน่นมาก หากคุณมีนัดหรือสิ่งที่ต้องทำทั้งวัน พยายามอย่าจัดตารางให้กิจกรรมพวกนี้อยู่ติดกันมากๆ เผื่อเวลาให้ตัวคุณได้ทำอย่างอื่นระหว่างวันด้วย ถ้าคุณจัดตารางแน่นไปเวลาการประชุมมีปัญหาหรือมีอะไรติดขัด ปัญหาง่ายๆอาจจะกระทบกิจกรรมอื่นหมดเลยก็ได้
#70 บ้านและที่ทำงาน คุณคงอยู่อย่างเรียบง่ายไม่ได้ถ้าแต่ละวันคุณต้องเดินทางไปวันละสองสามชั่วโมง ให้ลองดูว่าคุณจะลดเวลาการเดินทางหรือย้ายที่อยู่หรือย้ายงานได้ไหม อะไรก็ได้ที่ช่วยคุณประหยัดเวลามากขึ้น
สุดท้ายนี้
#71 ถามตัวเองว่า ‘ชีวิตเราจะเรียบง่ายขึ้นไหม’ หากคำตอบคือ ไม่ ก็ให้คิดอีกทีว่าสิ่งที่เราจะทำมันจำเป็นหรือสำคัญหรือเปล่า
#72 ศึกษาเรื่องความพอเพียง ดูเว็บของมูลนิธิชัยพัฒนาได้ เรื่องความพอเพียง
สุดท้ายแล้วความหมายของคำว่าเรียบง่ายและพอเพียงแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน บางครั้งสิ่งที่เรียบง่ายสำหรับเราอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับคนอื่น บางครั้งความพอเพียงในสายตาเราอาจจะดูเยอะเกินสำหรับคนอื่นก็ได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องหาความสุขจากความพอเพียงของเราให้ได้ พยายามปรับตามคำแนะนำข้างบนเพื่อหาจุดพอเพียงที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวคุณ
