หลายคนยังไม่เข้าใจถึงความสุขในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ในสถานะโสด หรือมีคนที่คู่ครองแล้วก็ตาม คุณก็สามารถเป็นคนที่มีความสุขได้ในแบบของตัวเอง และในแต่ละสถานะก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป มันไม่มีตัวชี้วัดว่าการอยู่ในสถานะแบบไหนจะมีความสุขมากกว่ากัน
เพราะสิ่งที่จะตัดสินเรื่องนั้นได้ เป็นเพียงแนวคิดของแต่ละคนเท่านั้น ซึ่งแนวคิดของแต่ละคนก็ย่อมที่จะแตกต่างๆ กัน แต่ในปัจจุบันเราได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกมากมายจนทำให้บางคนอาจมองว่าการอยู่เป็นโสดนั้นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
ดังนั้นผมจึงได้รวบรวม 10 วิธีที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตกับการเป็นคนโสดได้อย่างมีความสุขมานำเสนอ และอยากให้ทุกคนลองนำไปปรับใช้กันดูครับ
10 วิธีมีความสุขกับการเป็นโสด
#1 การใช้เวลาของตัวเองอย่างอิสระ
แน่นอนว่าตอนที่ยังมีคู่ครองนั้น เวลาส่วนใหญ่ของเรากว่าครึ่งก็จะถูกใช้ไปกับคู่ครองของเรา ซึ่งในบางครั้งคุณก็อาจจะจำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อให้เขารู้สึกพอใจถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากทำมันก็ตาม แต่ถ้าหากว่าคุณมีสถานะเป็นโสด เวลาทั้งหมดก็จะเป็นของคุณ และเราก็จะมีอิสระที่สามารถเลือกได้เลยว่าจะใช้เวลาของเราในการทำอะไรที่อยากทำได้ตามต้องการ ซึ่งแปลว่าคุณจะสามารถมีเวลาให้กับเรื่องของตัวเอง อย่างเช่น ความสนใจส่วนตัว อาชีพ หรืองานอดิเรกต่างๆ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตโดยรวมของตัวเองได้อีกด้วย
#2 การเห็นถึงประโยชน์ด้านสุขภาพ
เห็นได้ชัดว่าการอยู่อย่างเป็นโสดสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงด้านสุขภาพที่มีผลกระทบจากความสัมพันธ์ หรือชีวิตคู่ที่ล้มเหลวได้ ทั้งนี้ยังมีผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่มักจะส่งผลกระทบทำให้สุขภาพร่างกายนั้นย้ำแย่ตามไปด้วย
หากมองให้ลึกไปกว่านั้นจะพบว่าผู้หญิงที่โสดจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีกว่าผู้หญิงที่มีสามี หรือมีลูกแล้ว เพราะว่า พวกเธอมักจะใช้เวลาว่างของตัวเองไปกับการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารคลีนซึ่งดีต่อสุขภาพ กลับกันในขณะที่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วซึ่งมีสามีเห็นได้ชัดว่าการอยู่อย่างเป็นโสดสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงด้านสุขภาพที่มีผลกระทบจากความสัมพันธ์ หรือชีวิตคู่ที่ล้มเหลวได้ ทั้งนี้ยังมีผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่มักจะส่งผลกระทบทำให้สุขภาพร่างกายนั้นย้ำแย่ตามไปด้วย
ส่วนในด้านของสุขภาพจิตก็เช่นกัน ด้านผู้หญิงโสดที่มีทัศนคติที่ดี จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอยู่ในความรู้สึกที่เหงาหงอยนานจนเกินไป และเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น พวกเธอก็มักจะออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่เป็นคนโสดเหมือนกัน หรือทำกิจกรรมที่สามารถผ่อนคลายความเครียดได้ตามที่ต้องการ
ซึ่งก็ต่างกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเช่นกัน เพราะในบางครั้งที่ต้องเหนื่อยล้าจากการทำงานของตัวเองแล้ว ยังต้องคอยกังวลเรื่องของสามีและลูกๆ อีกด้วย จึงทำให้มีเวลาสำหรับพักผ่อนจิตใจของตัวเองสักครู่หนึ่งน้อยมาก
#3 การเห็นถึงประโยชน์ด้านการเงิน
หลายคนอาจจะมองว่าการมีคู่ครองนั้นเท่ากับ การที่แต่ละฝ่ายร่วมกันหารายได้มาจากสองฝั่งแล้วนำมารวมกัน จึงทำให้สามารถมีสภาพคล่องทางการเงินมากกว่าคนโสดที่ทำงานคนเดียวไม่ใช่หรือ ถ้าโดยทั่วไปหลายคนจะคิดแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะมันคือเรื่องจริง แต่ก็ยังมีหลายๆ คู่ที่ประสบปัญหากับคู่ครองที่ไม่มีความรับผิดชอบในด้านการเงินของตัวเอง จนอาจจะลามมาก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินแก่คุณได้เช่นกัน
ในปัจจุบันมีคนโสดมากมายที่สามารถทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวคนเดียว ด้วยการหารายได้จากหลากหลายช่องทาง ทำให้พวกเขามีสภาพคล่องทางการเงิน โดยสามารถใช้เงินที่ตัวเองหามาได้ตามต้องการและไม่จำเป็นต้องไปกังวลเรื่องพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนอื่นด้วย
#4 การรักษามิตรภาพและการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ
เวลาที่คนเรามีคู่นั้น การที่จะได้อยู่กับเพื่อนฝูงบ่อยๆ เพื่อรักษามิตรภาพของกันและกันให้คงอยู่นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากขึ้น เนื่องจากคุณต้องให้เวลาส่วนใหญ่ไปกับคู่ของตัวเองจนแทบจะไม่มีเวลาเหลือให้มิตรสหายเลย และยิ่งไปกว่านั้นการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ก็จะทำได้ยากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทำให้ค่อนข้างแตกต่างกันกับคนที่เป็นโสดมักจะสามารถแบ่งเวลาของตัวเองให้กับเพื่อนๆ หรือสามารถที่จะสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ได้มากกว่าคนที่มีคู่ครองอยู่แล้ว
เมื่อใดที่คุณกำลังรู้สึกแย่กับการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ให้คุณพยายามเตือนตัวเอง ด้วยการลองนึกถึงความสัมพันธ์ที่คุณมีคนที่คิดว่าสำคัญคนหนึ่ง แต่เขาดันเอาเวลารวมถึงพลังงานของคุณไม่แทบทั้งหมด ทำให้มิตรภาพของคุณกับคนอื่นๆ อาจจะต้องค่อยๆ ห่างเหินกันไปทีละน้อย แล้วคุณก็จะคิดได้ว่าการอยู่เป็นโสดก็ไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนเป็น
#5 หลีกเลี่ยงสื่อและคำคมด้านความรัก
สื่อนั้นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่าไม่มีความสุขตอนที่ตัวเองเป็นโสด เนื่องจากเราได้รับอิทธิพลจากสื่อที่เราเลือกเสพ โดยเฉพาะสื่อประเภทที่ชอบนำเสนอ และตอกย้ำความคิดที่ว่าการมีคู่ครองเท่ากับมีความสุขตามมา ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดสักทีเดียว ซึ่งคำว่า โสด นั้นเป็นเพียงแค่คำที่ใช้กำหนดสถานะของเราเท่านั้น แต่มันไม่ใช่ตัวชี้วัดที่จะใช้ในการตัดสินว่า เราจะไม่สามารถสนุก หรือมีความสุขได้
เพราะฉะนั้นเราก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงสื่อในลักษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสื่อจากนิตยสาร ละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ก็ตาม เนื่องจากว่ามันไม่เป็นความจริงเลย และอย่าไปยึดติดว่าถ้าเป็นคนโสดจะต้องรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวเสมอไป เพราะความเหงาก็เป็นเพียงแค่หนึ่งในอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่มนุษย์มีเช่นเดียวกับความสุข หรือความเศร้าเท่านั้นเอง
#6 มุ่งเน้นไปในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ
การเป็นคนโสดถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยที่เราจะได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ หรือกิจกรรมที่ชอบทำ ซึ่งด้วยสถานะโสดแบบนี้เราก็จะสามารถทุ่มเทและเน้นความตั้งใจไปที่ตนเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการทำให้สำเร็จ ซึ่งนับว่าเป็นความสุขที่ทำได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ตัวเองสามารถควบคุมได้
เพราะฉะนั้นการที่จะมีความสุขกับการเป็นโสดได้นั้น จำเป็นต้องมีสิ่งที่รักและอยากจะทำ อาจจะเป็นงานอดิเรกอะไรสักอย่าง เช่น การหนังดูฟังเพลง การเล่นกีฬา หรือการเล่นดนตรี เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการไปลงเรียนคอร์สต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ในสิ่งที่สนใจก็ได้ เพราะทุกสิ่งที่เราทำลงไปนั้น นอกจากจะช่วยทำให้ไม่รู้สึกเหงาแล้ว มันยังเป็นการสร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตัวของคุณเองอีกด้วย
#7 หมั่นดูแลตัวเองอยู่เสมอ
การรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ควรที่จะปล่อยตัวเองมากเกินไปจนมีสภาพที่ไม่น่ามอง อย่างเช่น รับประทานอาหารตามใจปากจนน้ำหนักขึ้น ปล่อยให้ผมยาวโดยไม่มีการดูแล หรือแม้แต่การอดหลับอดนอนดูซีรีส์โต้รุ่งจนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอและมีรอยดำใต้ตา เป็นต้น เพียงเพราะว่าคุณไม่มีใครให้เอาใจ หรือสร้างความประทับให้
ดังนั้น ในขณะที่เป็นโสดอยู่ก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองให้มากๆ หาเสื้อผ้าดีๆ ใส่ ดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และรักษาความสะอาดของร่างกายให้เรียบร้อย อาจจะไปเข้าสปา หรือไปนวดเพื่อให้ผ่อนคลายก็ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีไปอีกแบบ
#8 พื้นที่ซึ่งมีคนคอยสนับสนุนเรา
นักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่าการมีสังคมเพื่อนสนิทนั้นมีผลต่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และยังมีผลต่อการมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณไม่จำเป็นที่จะต้องคอยอาศัยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับใครคนใดคนหนึ่ง เพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ แต่การได้รับกำลังใจและแรงสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อน หรือคนที่เราสามารถไว้ใจได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณสามารถมีความสุขกับชีวิตการเป็นคนโสดได้
การมีครอบครัวที่ดีไม่กดดันให้มีคู่ หรือต้องแต่งงานและคอยให้การช่วยเหลือ สนับสนุน ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชีวิตโสดของคุณเป็นสุขได้อย่างมาก แต่ก็ใช่ว่าทุกครอบครัวจะคอยสนับสนุนชีวิตโสด ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้
ดังนั้น พยายามพาตัวเองไปอยู่กับคนอื่นๆ ที่อยากจะสนับสนุนเราให้มากที่สุด และถ้าหากยังรู้สึกว่าคนรอบตัวเราแต่ละคนนั้นยังไม่สามารถให้กำลังใจคุณได้มากพอ ก็ให้ลองไปเข้าร่วมคลับ หรือตามสถานที่ใหม่ที่เราสนใจเพื่อหาเพื่อนใหม่ๆ ที่จะคอยสนับสนุนเราได้
#9 พูดถึงข้อดีของตัวเองในเชิงบวก
การที่เราฝึกพูดถึงข้อดีของตัวเองที่เรามองเห็น หรือสิ่งที่เราชื่นชอบในตัวเองนั้น จะทำให้คุณเป็นคนที่มีความชัดเจนในตัวเองรวมถึงมีความมั่นใจในตนเองมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญคือจะสามารถทำให้คุณมีความสุขได้ เพราะการพูดถึงเรื่องดีๆ เกี่ยวกับตัวเองในทุกๆ วันเปรียบเสมือนการตอกย้ำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่ามันดี ซึ่งจะทำให้ตัวเองมีความสุขยิ่งขึ้นได้
ตัวอย่างเช่นการพูดกับตัวเองหน้ากระจกในทุกเช้าแล้วเปร่งเสียงออกมาอย่างมั่นใจว่า “ฉันเป็นคนฉลาด” “ฉันเป็นคนเก่ง” “ทุกคนอยากอยู่ใกล้ฉัน” เมื่อเราสามารถพูดในสิ่งที่เราเชื่อออกมาได้อย่างมั่นใจ สมองของคุณก็จะเชื่อแบบนั้นจริงๆ ซึ่งจะทำให้คุณมีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องโสดมาเป็นข้ออ้างได้เลย
#10 การมองโลกในแง่ดี
แทนที่คุณจะมามัวจมปลักอยู่กับคำว่าโสด แล้วคอยนึกถึงแต่เรื่องที่ไม่ดี หรือสิ่งที่ไม่ชอบที่เกิดขึ้น อยากให้คุณลองนึกย้อนกลับและเตือนตัวเอง โดยลองนึกถึงสิ่งที่คุณชอบในการได้เป็นโสดแทนดีจะกว่า เช่น การที่เราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ตามต้องการในเวลาว่างของตัวเอง หรือสามารถที่จะพูดคุย สร้างสัมพันธ์กับใครก็ได้อย่างไร้กังวล
แน่นอนว่าการมองโลกในแง่ดีนั้นจะช่วยทำให้คุณรู้สึกมีความสุขได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม และการฝึกมองโลกในแง่ดีนั้นก็จะช่วยทำให้คุณสามารถมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องมาจมปลักอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจนทำให้เป็นกังวล และนอกจากนี้เนื่องจากไม่มีเรื่องให้เป็นกังวลจึงส่งผลให้คุณนอนหลับได้สนิทมากขึ้นและทำให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้นตามไปด้วย
สุดท้ายนี้การใช้ชีวิตให้มีความสุขนั้นขึ้นอยู่กับแนวคิดของตัวเราเองเป็นสำคัญ หากเรายังมีความเชื่อว่าการเป็นโสดนั้นทำให้ตัวเองไม่มีความสุข เราก็จะไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และต่อให้เรามีคู่ครองสมใจแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะรับประกันได้ว่าเราจะมีความสุขมากขึ้นได้จริงๆ เพราะเรายังเลือกที่จะยึดติดกับคำแสดงสถานะเท่านั้น โดยไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของความสุขในการใช้ชีวิตเลย
ดังนั้นหากเราสามารถที่จะเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองที่มีต่อคำว่า โสด ได้ เราก็จะเริ่มมองเห็นเส้นทางของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกมากมายในฐานะของคนโสดคนหนึ่ง จนทำให้คนมีคู่บางคนอาจจะอิจฉาชีวิตโสดของเราไปเลยก็เป็นได้
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...