การจัดฟันแบบใส (Clear Aligners) คือการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะแสดงให้เราเห็นเป็น 3D หรือ 5D โดยจะเป็นการออกแบบตัวจัดฟันสำหรับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อให้เครื่องมือจัดฟันแบบใสนี้ออกแรงกดและดันฟันให้เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่คุณหมอต้องการ
ซึ่งเครื่องมือนี้จะใส่ฟันได้พอดี สวยงาม มองแทบไม่ออกเลยครับว่าคุณดัดฟันอยู่ และทำให้ฟันเรียงตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือเป็นรูปแบบการจัดฟันที่ตอบโจทย์คนหลากหลายประเภท และหากคุณกำลังคิดจะจัดฟันอยู่แล้ว มาดูกันว่าการจัดฟันแบบใสใช่สำหรับคุณหรือยัง
หมายเหตุ: บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก Zenyum (เซ็น-ยุ่ม) แบรนด์อุปกรณ์จัดฟันแบบใสชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์นะครับ ทางผมต้องขอขอบคุณทางแบรนด์อย่างมากที่ให้โอกาสผมในการมอบความรู้ดีๆอย่างนี้ให้กับทุกคน
คน 9 ประเภทที่ควรจัดฟันใส ไร้เหล็กกวนใจ
#1 จัดฟัาใสเหมาะกับคนไม่มีเวลา
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบใส จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล คือผู้ที่มีปัญหามากจะต้องใช้เวลาจัดฟันมาก แต่ถ้าคุณโชคดีมีปัญหาเพียงเล็กน้อย คุณก็จะเสียเวลาจัดฟันไม่นานเลยครับ
ระยะเวลาในการจัดฟันแบบใสของแต่ละบุคคลจะใช้เวลาต่างกัน ดังนี้
การจัดฟันที่ใช้เวลา 3-4 เดือน
เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาไม่มาก แค่มีฟันซ้อนหรือเกเล็กน้อย
ต้องพบคุณหมอประมาณ : 2-3 ครั้ง
การจัดฟันที่ใช้เวลา 6-7 เดือน
เหมาะกับ : คนที่มีปัญหาเรื่องฟันมากขึ้น คือมีการเรียงตัวของฟันซ้อนเกผิดปกติ
ต้องพบคุณหมอประมาณ : 3 ครั้ง
การจัดฟันที่ใช้เวลา 1-4 ปีแล้วแต่กรณี
เหมาะกับ : คนที่มีปัญหามาก ฟันซ้อนเกอย่างหนักแบบซับซ้อน
ต้องพบคุณหมอประมาณ : กรณีนี้แล้วแต่คุณหมอนัด ซึ่งคุณคงจะต้องเจอหน้าคุณหมอบ่อยเป็นพิเศษ
แม้คุณจะรู้สึกว่าการจัดฟันแบบใสกรณีที่ต้องใส่นานแรมปี ดูใช้เวลาไม่น้อยเลย แต่เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบใส่เหล็ก ที่อาจจะใช้เวลาเกิน 4 ปี การจัดฟันแบบใสจึงมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะแบบใสจะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนตัวของฟันไปยังตำแหน่งที่วางแผนเอาไว้อย่างเป็นระบบ
ในระยะแรกจะต้องเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันแบบใสทุก 2 สัปดาห์ เพราะหลักการทำงานของการดัดฟันแบบใส คือจะเกิดการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนแปลงของฟันทีละน้อย จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องมือหรือที่ครอบฟันแบบใสตัวใหม่เสมอ แต่คุณไม่จำเป็นต้องไปพบคุณหมอบ่อย ๆ เพราะจะมีชุดเครื่องมือให้คุณกลับบ้าน และเปลี่ยนตามระยะเวลาที่คุณหมอแนะนำ
#2 จัดฟันใสเหมาะกับคนรักสวยรักงาม
ถ้าคุณโตแล้ว คุณก็คงไม่อยากยิ้มโชว์ฟันเหล็กเหมือนเด็ก ๆ ใช่ไหมครับ ซึ่งการดัดฟันแบบใสนี้จะไม่ทำให้คุณดูแย่ แถมยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้คุณได้ เพราะวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกชนิดพิเศษที่มองแทบไม่เห็น เข้ากับรูปฟันของเราพอดี จนมองไม่ออกเลยว่าไปดัดฟันมา ดังนั้นเมื่อฟันเข้าที่เข้าทางแล้ว ใคร ๆ ก็จะแปลกใจว่าคุณไปทำอะไรมาจึงยิ้มสวยสะกดใจได้ขนาดนี้
อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นเครื่องมือดัดฟันแบบใส หากคุณเผลอดื่ม ชา กาแฟ หรือโกโก้ บ่อย ๆ โดยไม่ได้ถอดเครื่องมือ ก็จะทำให้เครื่องมือดูดสีของเครื่องดื่มเหล่านี้ และทำให้ฟันของคุณดูเหลืองน่าเกลียด
และหากพูดถึงความรักสวยรักงาม เราก็ต้องพูดถึงเรื่องของการถ่ายรูป ซึ่งหากคุณใช้เหล็กดัดฟันแบบเก่าๆ รอยยิ้มของคุณก็คงดูแปลกๆใช่ไหมครับ ในส่วนนี้การใช้ตัวจัดฟันใสก็จะทำให้รอยยิ้มในรูปถ่ายของคุณดูดีขึ้นมาก
#3 จัดฟันใสเหมาะคนรักการกิน
แน่นอนว่าการมีที่ดัดฟันเหล็กอยู่ในปากของคุณ คงทำให้หลายคนรู้สึกถึงสัมผัส กลิ่น และรสชาติของเหล็ก จนบางคนก็รู้สึกว่ารสชาติอาหารเปลี่ยนไป ทำให้กินอะไรก็ไม่อร่อย แต่การดัดฟันแบบใส คุณเพียงแค่ถอดออกก็สามารถรับรสชาติอาหารได้เต็มที่
#4 จัดฟันใสเหมาะกับคนกลัวเจ็บ
ขั้นตอนการดัดฟันแบบใสเจ็บน้อยกว่าการดัดฟันแบบใส่เหล็กแน่นอน หรือเรียกได้ว่าแทบไม่เจ็บเลย เพราะคุณหมอไม่ต้องแกะเหล็กดัดฟันออก เพียงแต่ขั้นตอนการทำวัสดุใส่ฟันในตอนแรกจะเสียเวลารอสักหน่อย ที่เหลือคุณก็แค่สวมที่ดัดฟันใสไปตามปกติ และหากพูดเรื่องความเจ็บ เราก็ต้องห้ามลืมถึงเวลาที่เหล็กดัดฟันเกี่ยวกระพุ้งแก้ม ซึ่งก็เป็นปัญหาน่ารำคาญใจของหลายๆคนด้วย
#5 คุณไม่ชอบความอึดอัด
การจัดฟันแบบใสจะต้องใส่อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน แต่คุณสามารถถอดออกเองได้ เมื่อคุณจะกินข้าวก็ถอดออกได้เลย จึงไม่มีปัญหาเรื่องเศษอาหารติดซอกเหล็กดัดฟัน รวมทั้งการแปรงฟัน หรือแม้แต่จะจูบแฟน คุณก็สามารถถอดออกได้ทันที คุณจึงไม่รู้สึกอึดอัดตลอดเวลา
นอกจากนี้เนื่องจากการจัดฟันแบบใสไร้ยาง คุณจึงไม่รู้สึกปวดตึงเพราะยางรั้ง และยังทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วเป็นปกติด้วย
ในทางตรงกันข้ามด้วยความที่เครื่องมือจัดฟันแบบใสนี้ สามารถถอดได้เองทุกเมื่อ จึงไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีวินัย ซึ่งจะทำให้ได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
#6 คุณมีปัญหาเรื่องการเคี้ยวอาหาร และการพูด
ถ้าคุณมีปัญหา เช่น พูดบางคำไม่ชัดเจน เคี้ยวอาหารไม่สะดวก หากมีสาเหตุมาจากตำแหน่งของขากรรไกรและฟันที่ผิดปกติ การจัดฟันแบบใสจะช่วยได้ เพราะวัสดุที่ใช้มีน้ำหนักเบา ทำให้ข้อต่อซึ่งเชื่อมขากรรไกรไม่ต้องมีภาระรับน้ำหนักที่มากเกินไป และในระยะยาวก็จะช่วยเสริมให้การเคี้ยวอาหาร และการพูดดีขึ้น
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องทำงานพูดเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่ต้องพูดหน้าห้อง คนวัยทำงานที่ต้องเจอลูกค้า หรือ พนักงานบริษัทที่ต้องพรีเซ้นต์งานบ่อยๆ
#7 คุณเคยจัดฟันมาก่อนแต่ได้ผลลัพธ์ไม่น่าพอใจ
แม้ว่าคุณจะเคยดัดฟันมาก่อนด้วยวิธีใส่เหล็ก และรู้สึกไม่ประทับใจกับผลที่ได้รับ เพราะอาจไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) เป็นประจำ จนทำให้ฟันล้ม หรือกลับไปเกเหมือนเดิมอีก แต่คุณก็สามารถเปลี่ยนมาดัดฟันแบบใสได้เลย
ยิ่งถ้าคุณอายุมากแล้ว การจัดฟันแบบใสยิ่งเหมาะกับคุณมาก เพราะสามารถทำได้ดีทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีฟันกรามขึ้นครบ
นอกจากนี้การจัดฟันแบบใส่เหล็กมักไม่สามารถแก้ปัญหารูปแบบฟันที่ผิดปกติได้ทั้งหมด แต่การจัดฟันแบบใสจะช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สดใส แม้ว่าคุณจะมีปัญหาเรื่องฟันเหล่านี้
- ฟันบนยื่น จนดูคล้ายแก้วหน้าม้า หรือมีลักษณะเหมือนจอบ
- ฟันล่างยื่น ลักษณะล้ำหรือครอบฟันบน
- ฟันห่าง ที่มาจากสาเหตุฟันหลุด หรือมีช่องว่างระหว่างฟันมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว และถ้าปล่อยให้ฟันห่างไปนาน ๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงทำให้ฟันซี่ข้าง ๆ เอียงไปหาช่องว่างมากขึ้น
- ฟันซ้อน หรือฟันที่ขึ้นมามากจนเบียดเสียดทับซ้อนกัน
- ฟันกัดเบี้ยว คือตำแหน่งจุดศูนย์กลางของฟันไม่ตรงกัน ทำให้เวลาบดเคี้ยวอาหารมีปัญหา
- ฟันสบเปิด คือเมื่อขบฟันแล้วเกิดช่องว่างที่ฟันบนและฟันล่างมากไปจนดูไม่สวยงาม
- ฟันกัดคร่อม คือลักษณะที่ฟันบนขบได้ไม่พอดีกับฟันล่าง รูปแบบฟันเหมือนไขว้กันไปมา ทำให้การเคี้ยวอาหารไม่สมดุล และกินอย่างไรก็ไม่รู้สึกว่าเต็มปากเต็มคำ
#8 คุณกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ
ในช่วง 2-3 วันแรกของการจัดฟันแบบใส อาจะทำให้รู้สึกระคายเคืองเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
แต่หลังจากนั้นการจัดฟันแบบใสจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อภายในช่องปาก เพราะไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเมื่อสวมใส่แบบการใส่เหล็ก
การจัดฟันแบบใสยังทำให้สุขภาพเหงือกดีขึ้น เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบเหล็ก เพราะแบบใสเมื่อถอดออกได้ ก็จะทำให้แปรงฟันได้สะดวก ซอกซอนได้ลึกทุกซอกทุกมุม ลดปัญหาฟันผุ กลิ่นปาก และเหงือกอักเสบได้ นอกจากนี้การจัดฟันแบบใสยังสามารถใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติด้วย
นอกจากนี้การจัดฟันแบบใสในยุคโควิดนี้ ยังทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงฝ่าเชื้อโรคออกไปพบคุณหมอทุกเดือน ทำให้คุณมีฟันสวยได้แถมไม่ต้องกลัวจะติดโรคด้วย
#9 คุณกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการดัดฟันแบบใสไม่หนีแบบธรรมดาหรือใส่เหล็กมากนัก โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องฟันเกมาก การจัดฟันแบบใสด้วยเครื่องมือ Clear Aligners ยี่ห้อทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น การจัดฟันใสกับแบรนด์ Zenyum นั้นมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ 49,000 บาทเท่านั้นเอง ดังนั้นทำไมคุณจึงไม่เลือกวิธีดัดฟันด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ดีกว่าเก่าละครับ
แน่นอนว่าด้วยราคาเท่านี้อีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องสนใจก็คือเรื่องของ ‘คุณภาพ’ และ ‘ความสะดวกสบาย’ ด้วย ซึ่งสำหรับตัวของแบรนด์ Zenyum นั้นก็คือว่ามีความน่าเชื่อถือมาก เพราะเป็นแบรนด์คุณภาพดีจากต่างประเทศ โดยตัว Zenym ให้บริการการจัดฟันผ่าน Application และมีฐานลูกค้ามากกว่า 1 หมื่นคนแล้ว
ส่วนหากเราพูดถึงเรื่องของความสะดวกสบาย Application ของ Zenyum ก็สามารถแจ้งเตือนคุณได้ว่าคุณต้องเปลี่ยนที่ดัดฟันของคุณเมื่อไร แถมยังมีระบบ Chat ที่ให้คุณคุยกับคุณหมอได้เรื่อยๆเลย พอรวมกับที่ว่า Zenyum นั้นมีพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) กับคลินิกชั้นนำในประเทศไทยหลายแห่งก็นับว่าราคาเท่านี้ ‘คุ้มกับค่าใช้จ่าย’ เอามากๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงรู้แล้วว่าตนเองเข้าข่ายข้อใดบ้าง และหากคุณมีโครงการจะดัดฟัน การดัดฟันแบบใสก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยครับ เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มที่สดใส และมั่นใจมากขึ้นในแบบของคุณเอง
การจัดฟันใสกับ Zenyum นั้นมีราคาจับต้องได้เพียง 49,000 บาทเท่านั้น โดยทาง Zenyum มีอุปกรณ์ไม่จำกัดจำนวนชิ้น ต่อให้คุณต้องใช้อุปกรณ์มากกว่าก็มีค่าใช้จ่ายเท่ากันหมด เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ต้องห่วงว่าฟันของคุณดัดยากง่ายแค่ไหน ราคาเบื้องต้นเท่ากันทุกคน เพียงแค่คุณใช้โค้ดส่วนลด ZYTIGER ในลิงค์นี้
สำหรับคนที่สนใจการจัดฟันใสในราคาที่จับต้องได้กับ Zenyum สามารถดูลิงค์นี้ได้นะครับ ส่วนหากใครอยากศึกษาเรื่องการจัดฟันใสเพิ่มเติม สามารถอ่านบทความเรื่อง ‘10 ข้อดีของการจัดฟันใส ที่คนอยากจัดฟันควรรู้’ ได้ด้วยเช่นกัน
>>>>> เเบรนด์ที่สร้างรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่
>>> https://www.zenyum.com/th-th แบรนด์จัดฟันใสที่มีเเล้วกว่า 7 ประเทศทั่วโลกในเวลาสั้นๆ
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...