ผมได้ยินคำว่า Mindfulness ครั้งแรกเพราะเพื่อนฝรั่งพูดให้ฟังครับ
ซึ่งก็แปลกดีเพราะในฐานะคนไทยที่โตมาในบริบทเมืองพุทธ ผมกลับต้องให้ฝรั่งอธิบายให้ฟังว่าการอยู่กับปัจจุบันแปลว่าอะไร
Mindfulness (อ่านว่า ไมน์-ฟูล-เนส) คืออะไรกันนะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสติหรือจิตใจ (Mind)?
คำว่า Mindful แปลว่าการรับรู้หรือการรู้สึกถึง มันหมายความว่าคุณกำลังรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น รับรู้ถึงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ และรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมของคุณ บางคนอาจจะเรียกสิ่งนี้ว่า ‘การอยู่กับปัจจุบัน’
แล้ว Mindfulness สำคัญขนาดนั้นเลยหรอ? ในบางครั้งสมองหรือจิตใจของเราก็อาจจะว้าวุ่นหรือล่องลอยจนเราควบคุมไม่ได้ บางทีก็ทำให้เรารู้สึกกังวลกับอนาคตหรือคิดไม่ตกกับสิ่งที่ทำในอดีตเป็นต้น และความคิดเหล่านี้อาจจะทำให้เรารู้สึกเศร้าหรือว่าหวาดระแวงได้
ในบทความนี้ผมจะไม่ขอพูดถึงเรื่อง ‘การอยู่กับปัจจุบัน’ ในเชิงศาสนามากก็แล้วกันนะครับ ผมอยากจะขอแนะนำแนวคิดโดยรวมของ Mindfulness มากกว่า เพราะผมเชื่อว่าทุกคำสอนของแต่ละศาสนาก็มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง
Mindfulness คืออะไร
Mindfulness หรือ ‘การมีสติ’ คือการที่เราตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน รับรู้ถึงสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่หรือทำอยู่ และเป็นการที่เราไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งรอบข้างกำลังกดดันหรือเป็นอันตรายต่อตัวของเราเกินความเป็นจริง
และ Mindfulness ก็เป็นสิ่งที่เราเข้าถึงได้ด้วยการฝึกใส่ใจกับความคิด อารมณ์ และความรู้สึกที่เราเป็นอยู่
ต่อให้ปัญหารอบข้างเราจะเยอะแค่ไหน เราก็ยังอยู่กับที่เราเป็นอยู่ เราเข้าใจว่าหน้าที่ของเราคืออะไร และเข้าใจอารมณ์ตัวเอง สำหรับบางคนคำว่า Mindfulness หรือการอยู่กับปัจจุบันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก แต่สำหรับบางคนมันก็ยากที่จะทำได้
ในความเป็นจริงแล้วสำหรับคนไทย ทฤษฎีของการอยู่กับปัจจุบัน (Mindfulness) ก็เป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังการเรียนศาสนาพุทธ แต่การมีคนพูดและอธิบายให้ฟังก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจคำว่า Mindfulness ได้ดี
Mindfulness เป็นสิ่งที่ต้องรับรู้ถึงด้วยตัวเอง ไม่ได้หมายความว่าเราจะเรียนรู้มันไม่ได้ มีหลายเทคนิคที่จะช่วยให้เรารับรู้การอยู่กับปัจจุบันได้ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การยืน การเดิน หรือ การหายใจ ทุกอย่างก็สามารถประสาน Mindfulness เข้าไปได้
บางคนอาจจะเรียกกิจกรรมพวกนี้ว่าการนั่งสมาธิ การฝึกหายใจ หรือการเล่นโยคะ แต่ในความจริงแล้วเราทำได้มากกว่านั้น
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Mindfulness
คำว่า Mindfulness หรือการมีสติ จริงๆแล้วก็สามารถแปลเป็นไทยได้ตรงไปตรงมานะครับ แต่ผมจะขออธิบายเพิ่มเกี่ยวกับความหมายเชิงลึกและสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Mindfulness หน่อย
- Mindfulness ไม่ใช่อะไรใหม่หรือเทรนด์ – Mindfulness เป็นอะไรที่มีมานานแล้ว ก็ถูกปลูกฝังในตัวเราตั้งแต่เด็กด้วย มันคือการรับรู้สิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่เรากำลังรู้สึกอยู่ บางคนหรือบางศาสนาอาจจะเรียก Mindfulness แตกต่างไป แต่แนวคิดและประโยชน์ก็ยังคงเหมือนเดิม
- เราไม่ต้องทำอะไรใหม่เพื่อได้ Mindfulness มา – Mindfulness ไม่ใช่อะไรที่เราต้องขวนขวายเพื่อให้ได้มา ไม่ใช่อะไรที่ได้มาจากภายนอก แต่สติคือการรับรู้จากภายใน และมีวิธีทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าสู่ถึง Mindfulness ได้
- เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน – Mindfulness คือการรับรู้และการเป็นตัวเองที่ดีที่สุด ไม่ใช่การที่เราต้องเปลี่ยนตัวเอง หรือก้าวผ่านความล้มเหลวหรือความผิดหวังอะไรทั้งนั้น
- ใครก็ทำได้ – การฝึก Mindfulness ไม่ใช่อะไรที่คุณต้องเปลี่ยนความเชื่อหรือสิ่งที่คุณเป็น เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เชื่อในศาสนาอะไร คุณก็สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จัดการฝึก Mindfulness ได้ทั้งนั้น
- เป็นวิธีใช้ชีวิต – Mindfulness ไม่ใช่สิ่งที่คุณฝึกแค่วันละไม่กี่นาทีแล้วก็หยุดได้ หากใจคุณอยู่กับปัจจุบันได้ คุณก็จะรับรู้ถึงทุกสิ่งที่คุณทำในชีวิต แน่นอนว่าความเครียดและความกดดันในชีวิตทุกคนก็จะน้อยลงด้วย แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำให้คุณมีความสุขได้
- หลักวิทยาศาสตร์ – Mindfulness ไม่ใช่แค่ความเชื่อ มีหลักวิทยาศาสตร์และผลการทดลองรับรองแล้วว่า Mindfulness มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ความสุข ชีวิตการงาน และ การเข้าสังคมของคุณ
- Mindfulness สร้างนวัตกรรม – ในขณะที่โลกเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ทุกอย่างยุ่งยาก เข้าใจยาก และไม่แน่นอนพร้อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ การกลับมาคิดเรื่อง Mindfulness จะทำให้เราเห็นปัญหาที่แท้จริงและสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำว่า Mindfulness กับ ความสุข เป็นสองสิ่งที่เราได้ยินด้วยกันบ่อย หากสนใจสามารถอ่านบทความเรื่อง ความสุขที่แท้จริงคืออะไร?
Mindfulness กับ Meditation เหมือนกันไหม
คำว่า Mindfulness, Meditation กับ Mindfulness Meditation เป็นคำศัพท์ที่มาคู่กันเรื่อยๆ
แต่โดยรวมแล้วทั้งสองอย่างก็มีความแตกต่างกันบ้าง
สำหรับผม Meditation หรือการทำสมาธิเป็นหนึ่งในวิธีที่จะเข้าสู่ Mindfulness หรือการรับรู้ปัจจุบัน ซึ่งก็จะทำให้เกิดคำศัพท์ที่คนนิยมเรียกว่า Mindfulness Meditation ซึ่งก็คือการทำสมาธิเพื่อเข้าถึงสถานะ Mindfulness ให้ได้
หรือบางคนอาจจะแปล Meditation ว่าสมาธิ และแปล Mindfulness ว่า ‘การมีสติ’ ก็ได้ ซึ่งทั้งสองอย่างก็คล้ายและเกี่ยวข้องกันมากทีเดียว
อย่างที่ผมบอกไปครับ การจะเข้าใจหรือเข้าถึง Mindfulness มีหลายวิธี แต่ Mindfulness Meditation ก็เป็นวิธีที่คนพูดถึงเยอะที่สุด
ตามหลักแล้วคำว่าทำสมาธิไม่ใช่แค่การปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนเท่านั้น เพราะสมาธิคือการเข้าสู่สถานะแห่งความสงบ ความสบาย และความสุข ในเชิงปฏิบัติการทำสมาธิการใช้เวลาเพื่อรับรู้ถึงลมหายใจของเรา ร่างกายของเรา และจิตใจของเรา (อ่านต่อได้ที่ วิธีทําใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน)
ไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ถึงตัวเอง หรือการเข้าถึงความสงบ ก็คือการอยุ่กับปัจจุบันนั้น
Mindfulness ในเชิงจิตวิทยา
ในเชิงจิตวิทยา Mindfulness คือเครื่องมือช่วยให้เรารับรู้ถึงจิตใจและอารมณ์ของตัวเองได้ง่ายขึ้น
เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของ Mental Health และ Emotional Health หรือก็คือสุขภาพของจิตใจและสุขภาพของอารมณ์มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดข้อเสียที่เกิดจากโรคซึมเศร้า (Depression) หรือโรคจิตวิตกกังวล (Anxiety) ก็สามารถใช้ Mindfulness ในการช่วยได้ (แต่ก็ต้องอาศัยความรู้และคำแนะนำของแพทย์ด้วย)
ผมคิดว่าโลกเราในปัจจุบัน พอมนุษย์สามารถก้าวผ่านปัญหาปัจจัยห้าของตัวเองได้แล้ว นั่นก็คือมีบ้าน มีอาหาร มียา แล้วมีเสื้อผ้าใส่ สิ่งที่มนุษย์ค้นพบก็คือช่องว่างทางจิตใจที่ไม่เคยเจอมาก่อน และปัญหานี้ก็ยิ่งทวีคูณเพราะว่าเป็นปัญหาที่ไม่สามารถมีใครช่วยแก้ได้ นอกจากเราต้องรับรู้และหาคำตอบด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นกรณีเรื่อง การมีทุกอย่างแล้วแต่ไม่มีความสุข
ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะอยากจะนำเสนอคำว่า Mindfulness ออกมาได้หลายมุมมองนอกเหนือจากมุมมองทางด้านศาสนา เพราะประโยชน์ของ Mindfulness สามารถใช้ได้หลายอย่างทั้งในจิตวิทยา และเชิงการแพทย์
หวังว่าทุกคนจะเข้าใจเกี่ยวกับ Mindfulness มากขึ้นนะครับ ไม่ทราบว่าแต่ละคนมีเทคนิคอะไรที่ช่วยในการ ‘อยู่กับปัจจุบัน’ หรือเปล่าครับ? แล้วเทคนิคพวกนี้ได้ผลมากแค่ไหนครับ? ถ้ามีคำแนะนำอะไรสามารถคอมเม้นหรือแชร์มาได้ด้านล่างเลย
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...