ผมเคยคิดว่าความสงบเป็นเหมือนการขี่จักรยาน หากเราทำได้ครั้งหนึ่งแล้วเราก็จะทำได้ไปเรื่อยๆตลอดชีวิต แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมได้เข้าใจว่า ‘การทำใจให้สงบ’ เป็นสิ่งที่เราต้องฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ หากเราเลิกฝึกเมื่อไรเราก็จะกลับมาคิดฟุ้งซ่านอีกครั้ง
แต่วิธีทำใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่านมันมีอะไรบ้างนะ? ในบทความนี้ผมแนะนำให้ทุกคนค้นหาวิธีทำให้ใจสงบและเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์และความชอบของตัวเองได้เลยครับ แต่ก่อนที่จะพูดเรื่องวิธีทำให้ใจสงบเรามาดูความหมายของความสงบกันก่อน
ความสงบคืออะไร
ความสงบหมายถึงการที่คุณสามารถหาความเงียบได้ในโลกนี้ มันไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำชีวิตคุณให้น่าเบื่อหรือคุณต้องอยู่บ้านตลอดเวลา
เราจะเห็นได้ว่า ความสงบที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมภายนอกและไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในชีวิตเรา ความสงบที่แท้จริงหมายถึงการรับรู้ถึงตัวเองและสิ่งที่เราสามารถทำได้ หากคุณใจของคุณสงบ คุณจะสามารถยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นและไม่ใช้เวลาและพลังงานเพื่อความคิดที่ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป
ความสงบคือสิ่งตรงข้ามกับความกระวนกระวาย ครุ่นคิดและกังวล
เรื่องของความสงบและความสุข (ที่แท้จริง) ก็เป็นสิ่งที่คนพูดถึงด้วยกันเยอะ ผมได้เขียนบทความหนึ่งไว้แนะนำให้อ่านนะครับ น่าจะถูกใจคนที่ชอบบทความนี้ ความสุขที่แท้จริงคืออะไร
วิธีทำใจให้สงบสำหรับแต่ละคนคงมีความหมายไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะหาความสงบได้จากการสวดมนต์นั่งสมาธิ บางคนอาจจะหาได้จากการปล่อยวางไม่คิดเรื่องเครียด หรือบางคนอาจจะหาได้จากการไปเดินสวนเที่ยวตามธรรมชาติ
ผมได้เรียนรู้ว่าความสงบเป็นสิ่งที่มีอยู่รอบตัวเราและเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเราด้วย แต่การที่จะทำใจให้สงบ เราต้องพยายามฝึกตัวเอง แต่การฝึกตัวก็กลับทำให้เรารู้สึกกดดันจนใจเราไม่สงบซักที
ยิ่งหากเราอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันหรือน่าปวดหัว มันก็ยิ่งยากที่จะให้เราเลือกที่จะทำใจให้สงบแทนที่จะจมอยู่กับปัญหาต่างๆ บางครั้งการครุ่นคิดเรื่องปัญหาในชีวิตก็เหมือนจะเป็นทางเลือกเดียวที่เราจะทำได้
แต่มันไม่ใช่เลย…เรามีทางเลือกเสมอ และวิธีทำใจให้สงบก็มีให้เลือกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ไม่ว่าสมองเราจะว่ายังไง เราก็ต้องเรียนรู้หาวิธีทำใจให้สงบที่เหมาะสมกับตัวเราและสถานการณ์ของเรา
เราไม่ต้องอยู่ที่ไหน ไม่ต้องทำอะไร และไม่ต้องอยู่กับใคร เราก็รู้สึกสงบได้ และนี่คือ 40 วิธีทำใจให้สงบครับ
ทำสมาธิ
#1 ใช้เวลา 5-10 นาทีเพื่อนั่งสมาธิ
#2 หากใจเข้าออก 100 ครั้ง ในขณะที่นับ 1 ถึง 100 โดยเราควรใช้สมาธิไปกับการสังเกตุการหายใจและการนับเลข
#3 ออกไปเดินสร้างสมาธิ ให้ใช้สติอยู่กับความรู้สึกเวลาเดิน รับรู้ถึงพื้นดินและการเคลื่อนไหวของร่างกาย
#4 หาวิดิโอสอนทำสมาธิบนYouTube เพื่อเรียนรู้วิธีสร้างความสุขจากความสงบ
#5 ฝึกหายใจสลับรูจมูก บีบจมูกฝั่งซ้ายเพื่อหายใจเข้าฝั่งขวา กั้นหายใจ หลักจากนั้นให้ปล่อยจมูกฝั่งซ้ายแล้วบีบจมูกฝั่งขวาแล้วค่อยหายใจออก ทำสลับข้างไปมาอย่างนี้ห้าครั้ง
สมาธิและสติจะเป็นตัวบอกเราว่าสมองของเราคิดเรื่องอะไรอยู่ รู้สึกอะไรอยู่ และความคิดหรือความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
การสื่อสาร
#6 จดเรื่องที่ทำให้คุณเครียดและหน่วงใจ แล้วก็เผามันทิ้งไป เป็นการปล่อยวางแบบมีรูปธรรม
#7 เขียนเรื่องยากๆที่คุณเคยผ่านมาได้ออกมา เพื่อที่คุณจะได้เห็นภาพว่าคุณผ่านอะไรมาหลายอย่างแล้ว จะได้สร้างกำลังใจให้คุณเวลาที่คุณ
#8 ระบายความในใจของคุณออกมา ให้คนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่หรือรู้สึกอึดอัดรับฟังแทนที่จะเก็บความรู้สึกนั้นให้มาหน่วงจิตใจ หากอะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่สะบายใจให้เราถามก่อน เพราะการ ‘คิดไปเอง’ หรือการสันนิษฐานเป็นจุดเริ่มต้นของความเครียด
#9 โทรไปหาคนที่คุณเคยไม่ให้อภัย แล้วบอกคนนั้นว่าคุณให้อภัยเค้าแล้ว
#10 ขอโทษเวลาทำผิด แทนที่จะโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้พูดขอโทษแล้วก็ยกโทษให้ตัวเอง
ความคิดสร้างสรรค์
#11 บำบัดจิตใจด้วยศิลปะ หยิบดินสอสีหรือปากกาขึ้นมาแล้วก็วาดความรู้สึกของคุณลงกระดาษไปเลย
#12 สร้างสมุดภาพ เป็นสมุดที่รวมภาพที่ทำให้คุณรู้สึกดี รู้สึกผ่อนคลาย หรือรู้สึกสงบออกมา (ลอง Google หาภาพพวกนี้มาก็ได้)
#13 ทำสมาธิด้วยคำคมเกี่ยวกับความสงบที่คุณชอบ ให้คุณเขียนหรือพิมพ์ออกมาใส่กรอบไว้ดูเวลาที่ต้องการความสงบภายหลัง
#14 ออกไปเดินภ่ายรูปสิ่งสวยงาม การถ่ายรูปสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกสงบ เช่นต้นไม้หรือน้ำตกตามธรรมชาติ
#15 เขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้คุณสงบ ไม่ว่าจะเป็นการระบายสิ่งที่ไม่ดีออกไป เขียนสิ่งที่เราเรียนรู้จากประสบการณ์แย่ๆ หรือเขียนบล็อกเพื่อช่วยคนอื่นก็ตาม
กิจกรรม
#16 ลุกขึ้นมาเต้นกับเพลงที่คุณชอบ ให้โฟกัสไปที่เพลงกับการเคลื่อนไหวของร่ายกาย ยิ่งสมาธิคุณอยู่กับดนตรีและการเต้นมากเท่าไร จิตของคุณก็จะสงบขึ้นเท่านั้น
#17 ไปเดินชายทะเล โฟกัสไปกับหาดทรายและน้ำทะเลที่กำลังสัมผัสเท้าของคุณ ฟังเสียงคลื่นที่บอกคุณว่า ‘สู้ๆ’ วิธีเดิมๆแต่ก็ใช้ได้ผลตลอด
#18 ขี่จักรยาน หากการขับรถในกรุงเทพทำให้คุณหงุดหงิดมากกว่าเดิม ผมคิดว่าการหาที่ปั่นจักรยานและหาความสุขกับธรรมชาติก็ดีครับ
#19 ออกมายืดตัวซัก 5-10 นาที ฝึกหายใจในขณะที่คุณกำลังเคลื่อนไหว หรือถ้ามีเวลาหน่อยก็ไปเล่นโยคะเลยก็ได้
#20 จัดบ้าน หรือจัดโต๊ะทำงานของคุณก็ได้ การจัดระเบียบความเรียบร้อยของสิ่งใกล้ตัวคุณจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
การยอมรับ
#21 แสดงความอ่อนโยนกับคนที่ทำร้ายเรา แทนที่จะโมโหหรือรู้สึกหงุดหงิด การปล่อยวางและให้อภัยคนที่ทำไม่ดีกับคุณจะให้อิสระกับคุณ
#22 แบ่งเวลาให้ตัวเองเพื่อชื่นชมสิ่งดีๆในชีวิตคุณ เพื่อทำให้คุณมีความสุขกับปัจจุบันและสร้างอนาคตที่ดีกว่า
#23 เขียนลิตส์สิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเอง และให้ความสำคัญกับลิตส์นี้มากกว่าความคิดที่ว่าสิ่งต่างๆในชีวิตน่าจะดีกว่านี้
#24 โฟกัสกับสิ่งที่คุณชื่นชอบในคนรอบตัวคุณ แทนที่จะพยายามเปลี่ยนคนพวกนั้น (สมมติว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว)
#25 ให้เตือนตัวเองทุกครั้งที่คุณเริ่มคิดว่า ‘เราน่าจะ’ หรือ ‘เราควรจะ’ เพราะความคิดพวกนั้นทำให้คุณมองปัจจุบันในแง่ลบ ให้คิดว่า ‘เราทำดีที่สุดแล้ว การทำดีที่สุดของเราก็เพียงพอแล้ว และเรากำลังเรียนรู้กับพัฒนาอยู่ทุกวัน’
การยอมรับเพื่อทำให้ใจสงบเป็นหัวข้อที่คนศึกษาบ่อยควบคู่กับการปล่อยวาง สามารถศึกษาเพิ่มได้ที่นี่ครับ 40 วิธีปล่อยวางเพื่อสร้างความสุขในชีวิต
การยอมรับไม่ได้แปลว่าเราต้องทนกับสิ่งแย่ๆในชีวิตเสมอไป แต่มันหมายความว่าเราไม่ควรปล่อยให้สิ่งแย่ๆมาทำให้เราไม่สบายใจ และเราควรหาวิธีแก้เพื่อให้ออกจากสถานการณ์นี้โดยไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
อยู่คนเดียว
#26 เริ่มอ่านหนังสือเพื่อเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่คุณเผชิญอยู่
#27 ให้เวลากับตัวเอง เป็นเวลาที่คุณไม่ต้องออกไปเจอใคร หรือทำอะไรที่คุณไม่อยากทำ เวลานี้คุณควรทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ใจคุณมีความสุข บางคนอาจจะชอบไปเดินชมศิลปะต่างๆ บางคนอาจจะชอบไปเที่ยว หรือบางคนก็อาจจะชอบไปร้านอาหารหาของกินอร่อยๆด้วยตัวเอง
#28 อยู่กับธรรมชาติ นั่งใต้ต้นไม้หรือออกไปปีนเขา สร้างเวลาสำหรับการชื่นชมธรรมชาติ
#29 เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง พยายามถามตัวเองเรื่อยๆว่ารู้สึกอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ ให้คำแนะนำกับตัวเองเหมือนเวลาคุณให้คำแนะนำเพื่อนรักของคุณตอนมีปัญหา
#30 มองโลกในแง่ดี บอกตัวเองไว้ว่าคุณรู้สึกสงบ รู้สึกมีความสุข รู้สึกอมีสติ
‘กำลังใจ’ และ ‘การพัฒนาตัวเอง’ คือสองสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขกับตัวเองได้ ผมแนะนำให้ลองศึกษาสองบทความนี้ดูนะครับ 25 วิธีให้กำลังใจตัวเอง และ วิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
การให้เวลากับตัวเองไม่ได้แปลว่าเรากำลังหนีปัญหา และไม่ได้แปลว่าเรายอมแพ้ แต่บางครั้งเราก็ต้องหาเวลามา ‘เติมพลัง’ และ ‘เติมเต็ม’ ตัวเอง บางทีอาจจะเป็นการออกไปหาความฝัน บางทีอาจจะเป็นการไปเที่ยว หรือบางทีอาจจะเป็นการทำอะไรที่เราชอบบ้าง
ความสัมพันธ์
#31 พูดความจริงในทุกความสัมพันธ์ การปิดบังความรู้สึกจะทำให้คุณรู้สึกเครียด สิ่งที่ควรทำคือการแสดงความจริงใจและอธิบายความรู้สึกของเราออกมา
#32 หยุดตัวเองเวลาเรากำลังโทษ ว่า หรือคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่่อ แทนที่จะคิดว่าใครถูกหรือใครผิด ให้ถามตัวเองแทนว่าเราจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือเป็นตามที่เราคาดหวังได้ยังไง
#33 หาความสุขกับคนที่คุณรัก เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารัก ให้ลืมปัญหาต่างๆไปก่อนแล้วหากิจกรรมที่น่าสนุกหรือดูตลกทำด้วยกัน
#34 หาคนที่น่าจะเข้าใจปัญหาของคุณ การสร้างกลุ่มสนับสนุนและการพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาของกันและกันจะทำให้คุณรู้สึกสงบมากขึ้น
#35 ปล่อยให้คนเข้ามาใน ‘กิจกรรมดูแลตัวเอง’ ของคุณ ชวนเพื่อนมาเล่นโยคะด้วยกันน หรือพาครอบครัวไปเดินสวนใกล้บ้านบ้าง
การมีความสุขด้วยตัวเองไม่ได้แปลว่าเราต้องอยู่คนเดียวตลอดเวลา ในสังคมทุกวันนี้ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนอื่นหรือทำอะไรเพื่อคนอื่นด้วย ซึ่งก็จะนำเรามาสู่บทสุดท้าย…การให้
การให้
#36 อาสาสมัคร เพื่อช่วยเหลือองค์กรเพื่อสังคมที่คุณชอบ การที่เราทำงานเพื่อช่วยคนอื่นก็เหมือนเป็นการรักษาจิตใจตัวเองไปด้วย ความสงบมาจากการที่เราเลิกมองแต่ปัญหาของตัวเองและหันมาช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
#37 อาสาสมัครช่วยสุนัขหรือแมวจรจัด สัตว์เป็นสิ่งที่อยู่กับปัจจุบันมากที่สุดแล้ว ผมว่าเราน่าจะเรียนรู้จากพวกมันได้เยอะครับ
#38 ช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นการให้เล็กน้อยแค่ไหนมันก็จะทำให้เรามีความสุขเสมอ ถ้าคนที่คุณช่วยอยากจะตอบแทนคุณก็บอกเค้าว่าให้ตอบแทนด้วยการช่วยคนอื่นแทน (pay it forward)
#39 ใช้ความชอบของคุณช่วยคนอื่น ถ้าคุณเป็นนักออกแบบก็อาจจะลองทำโลโก้ฟรีให้เพื่อนหรือทำช่วยองค์กรเพื่อสังคมต่างๆ คุณได้ทำสิ่งที่คุณชอบและก็มีคนที่ต้องการอยากได้ผลงานของคุณด้วย win-win มากเลย
#40 ใช้เป้าหมายในชีวิตของคุณเพื่อคนอื่น เปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตเป็นการทำเพื่อคนอื่นแทนที่จะทำเพื่อเงิน อาจจะเป็นการช่วยทำความฝันของคนอื่นให้เป็นจริง หรือช่วยคนลดน้ำหนัก ไม่ว่าเป้าหมายในชีวิตของคุณคืออะไร ลองให้คนอื่นฟรีๆดูครับ
ในส่วนเรื่องการให้ ผมแนะนำให้ทุกคนอ่านบทความเรื่อง 5 ประโยชน์ของการช่วยเหลือผู้อื่น ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงมุมมองการใช้ชีวิตของคุณได้ครับ 5 ประโยชน์ของการช่วยเหลือผู้อื่น
ถ้าคุณอยากมีความสุข คุณก็ต้องหาความสงบ สองสิ่งนี้มาด้วยกันเสมอ แต่ถ้าคุณไม่สามารถหาความสงบจากในใจคุณ มันก็ยากที่คุณจะหาความสงบจากที่อื่นได้
คุณอาจจะคิดว่าลิตส์พวกนี้มันดูยาวเหลือเกิน ถ้าจะให้ทำทุกอย่างก็คงทำไม่หมดแน่ๆ คำแนะนำของผมก็คือ ‘ไม่ต้องทำทุกอย่าง’ ผมแนะนำให้คุณเลือกทำแค่ไม่กี่อย่างที่คุณคิดว่าทำได้เลยทันที แล้วค่อยๆเรียนรู้วิธีทำใจให้สงบทีละนิด หรือไม่ก็ลองค้นหาวิธีเฉพาะตัวของคุณที่อาจจะไม่มีในลิตส์นี้ก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าทุกคนอาจจะมีตารางชีวิตหรือหน้าที่ความรับผิดชอบไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาว่า ‘อะไรทำให้ใจเราสงบ’
ใครที่อ่านบทความแล้ว รบกวนทำแบบสอบถามเพื่อให้ผมสามารถเขียนบทความที่ทุกคนชอบได้มากขึ้น https://forms.gle/TrkHTigUtcEMzqNt6
บทความเกี่ยวข้องที่เราแนะนำ
- ทักษะการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คืออะไรกัน? แล้วมีอะไรบ้าง?
- ตัดสินใจเองไม่ได้ – โรคไม่กล้าตัดสินใจ และ วิธีแก้ความลังเล
- Mindfulness คืออะไร? เหมือนกับ Meditation หรือเปล่า?
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...