หลายครั้งที่เราไม่กล้าทำตามความฝันของตัวเองก็เป็นเพราะเรากลัวที่จะล้มเหลว…หรือจะเรียกว่าไม่มั่นใจในตัวเองก็เลยไม่กล้าเอาชนะความกลัวก็ได้ ปัญหาเรื่องไม่มั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่คนต้องเผชิญ แต่คำถามหลักก็คือ เราจะสร้างความมั่นใจในตัวเองได้อย่างไร
Table of Contents
การสร้างความมั่นใจในตัวเอง…ทำได้อย่างไร
เราควรฝึกเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งถ้าเรามองในโลกความเป็นจริงแล้วการเข้าสังคมในยุคปัจจุบันก็เป็นโอกาสที่เราสามารถฝึกเพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้ทุกวัน บางคนอาจจะฝึกได้จากการคุยกับคนอื่น บางคนอาจจะฝึกด้วยการปรับทัศนคติของตัวเอง
การฝึกเพิ่มความมั่นใจหรือเอาชนะความกลัว ไม่ได้แปลว่าความกลัวจะหายไป 100% มันแค่แปลว่าความกลัวจะทำร้ายเราได้น้อยลง ไม่ว่าใครก็ทำได้ ผมก็ทำได้ คุณก็ทำได้
การเข้าสังคมหมายถึงว่าเราต้องคิดถึงคนอื่นก่อน เราต้องหาวิธีทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจหรือมีความสุขก่อน แต่บางทีเราก็ต้องการเวลาเพื่อที่จะคิดถึงสิ่งที่เรารักและต้องการทำ เราต้องการดูแลจิตใจของตัวเอง เพราะการพยา่ยาม ‘เข้าสังคม’ ในขณะที่เราไม่มั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
หากเราไม่มั่นใจในตัวเองเราก็คงไม่สามารถ ‘เลือกทางเดิน’ ที่เราชอบได้ เราก็คงไม่กล้าที่จะแบ่งเวลามาเพื่อใช้ทำตามสิ่งที่เราอยากทำ หรือ กลายเป็นคนที่เราอยากจะเป็น สามารถ กดตรงนี้เพื่อดู 25 วิธีการได้เลย
การสร้างความมั่นใจในตัวเอง เป็นไปได้หรือเปล่า
ถ้าเราเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง มันเป็นไปได้ไหมว่าเราจะเปลี่ยนตัวเอง? เราสามารถควบคุมความมั่นใจในตัวเองได้มากแค่ไหนกันนะ
ความย้อนแย้งของการไม่มั่นใจในตัวเองก็คือ ‘ยิ่งเราไม่มั่นใจในตัวเองแค่ไหน เราก็ยิ่งเปลี่ยนหรือปรับปรุงตัวเองยากขึ้น’ แต่ผมคิดว่าต่อให้ยากแค่ไหนเราก็สามารถทำได้ครับ เราไม่ต้องให้คนอื่นช่วยในการเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง หากเราไม่คิดว่าเราเก่ง เราฉลาด หรือเราเป็นคนหน้าตาดี…ของพวกนั้นมันเปลี่ยนกันได้
เราสามารถกลายเป็นคนที่คนอื่นเคารพ และเป็นคนที่ทำตามสิ่งที่ฝันได้โดยไม่ต้องสนใจความคิดเห็นของคนอื่น
ความมั่นใจในตัวเองสามารถสร้างได้ถ้าเรารู้เข้าใจวิธีควบคุมชีวิตตัวเอง เราต้องรู้จักเริ่มทำอะไรที่ช่วยเราพัฒนาทักษะ ภาพลักษณ์ และความมั่นใจของเรา โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
ในบทความนี้ ผมมี 25 วิธีที่เราสามารถทำเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ทุกวิธีสามารถทำได้จริง ทุกวิธีสามารถทำให้เกิดผลได้ แต่เราก็ต้องตั่งใจทำเช่นกัน การทำลิตส์นี้ไม่ใช่อะไรยากเลยแต่ต้องใช้ความตั้งใจครับ
อย่างไรก็ตาม คุณก็ไม่ต้องทำทุกอย่างในลิตส์ก้ได้ ผมแนะนำให้เลือกวิธีที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ อาจจะเริ่มด้วยการลองทำสองสามวิธีดูก่อน และหาวิธีอื่นๆที่ถูกใจคุณมากขึ้น หากวิธีไหนคิดว่าไม่เหมาะหรือทำแล้วไม่เห็นผลก็ให้เลือกเปลี่ยนวิธีใหม่แค่นั้น
25 วิธีสร้างความมั่นใจในตัวเอง
#1 ดูแลตัวเอง เป็นวิธีที่ง่ายและชัดเจนที่สุด แต่ไม่มีอะไรทำให้เรารู้สึกดีและมั่นใจตัวเองมากไปกว่าการอาบน้ำสระผมทำความสะอาดทั้งตัว บางทีผมก็รู้สึกว่าการอาบน้ำหลังวันเหนื่อยๆก็เพียงพอให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายจนอารมณ์ดีได้แล้ว
#2 แต่งตัวให้ดี วิธีนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนเสริมจากข้อหนึ่ง ถ้าเราตั้งตัวดีในเสื้อผ้าที่เราชอบ เราก็จะรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ผมไม่ได้บอกว่าเราต้องไปซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงตลอดเวลานะครับ แต่ละคนมีเสื้อผ้าที่ตัวเองชอบไม่เหมือนกัน ถ้าเราหาชุดไปรเวทที่ดูดีและทำให้เรารู้สึกมั่นใจเวลาใส่ก็เพียงพอแล้ว
#3 คิดภาพในฝันของเรา มุมมองของเราต่อตัวเรานั้นสำคัญมาก ภาพลักษณ์ในใจของเราพวกนี้คือตัววัดว่าเราภูมิใจในตัวเองแค่ไหน
แต่สิ่งที่เรามักลืมคิดไปก็คือภาพลักษณ์พวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่คงที่ ภาพลักษณ์พวกนี้สามารถเปลี่ยนได้เสมอ และเราก็สามาถควบคุมมุมมองของเราได้เช่นกัน หากเรามองตัวเองไว้ไม่ดี เราก็ควรที่จะหาวิธีปรับความคิดและมุมมองของตัวเอง ให้คุณลองสังเกตุตัวเองดูว่าภาพในฝันของตัวเองคืออะไรและวิธีที่จะแก้ไขมีอะไรบ้าง
#4 มองในแง่ดี หลายสิ่งในชีวิตของเราขึ้นอยู่กับมุมมองของเราเองเลยครับ บางครั้งข้อแตกต่างระหว่างคนที่ทำได้และทำไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเค้ามองโลกในแง่ดีแค่ไหน ให้เราลองสังเกตุอารมณ์และความคิดตัวเองดูว่าเมื่อไรที่เราเริ่มคิดว่าบางอย่างมัน ‘ทำยาก’ ‘เป็นไปไม่ได้’ หรือ ‘ไม่ดี’ ดูและถามตัวเองซ้ำอีกครั้งดูว่าความคิดและอารมณ์พวกนี้มัน ‘จริงหรือเปล่า’
#5 ตัดความคิดแง่ลบ หากการมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่คุณรู้สึกว่ายังทำไม่ได้ ให้ลองเปลี่ยนมาทำแบบนี้แทนก็ได้ หากเราเริ่มสงสัยความสามารถของตัวเองหรือเริ่มอยากเลิกหรือยอมแพ้ในสิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำให้ได้ก็ให้เราพยายามรับรู้ความคิดความรู้สึกพวกนี้ไว้ ให้คิดว่าความคิดในแง่ลบพวกนี้เป็นแมลงตัวเล็กตัวหนึ่ง
หากเราจับแมลงได้หนึ่งตัวก็ให้ปล่อยมันออกนอกหน้าต่างไป อย่าให้มันมารบกวนจิตใจของเราได้
#6 รู้จักตัวเอง คนจีนเคยบอกไว้ว่า ‘รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’ แปลว่าเราไม่สามารถเอาชนะศัตรูที่เราไม่รู้จักได้ แต่ถ้าศัตรูที่เราพูดถึงคือ ‘ความกลัว’ ของตัวเอง เราควรที่จะทำยังไง?
หาก ‘ความคิด’ คือศัตรูของเรา เราก็ต้องทำความรู้จักความคิดของตัวเองให้มากกว่าเดิม ให้เริ่มฟังความคิดของตัวเอง เริ่มสังเกตุความรู้สึกของเรา เริ่มจดบันทึกหรือไดอารี่ก็ได้ เริ่มเก็บเรื่องราวความคิดของเราไว้เพื่อวิเคราะห์ว่าทำไมหรืออะไรที่ทำให้เรามองโลกในแง่ลบ หลักจากนั้นก็ให้เริ่มดูว่าอะไรทำให้เรามีความสุข อะไรทำให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเอง และอะไรที่เราชอบ เรารู้จักตัวเองได้ด้วยการสังเกตุครับ
‘ความกลัว’ เป็นหัวข้อที่ผมคงต้องอธิบายยาวกว่านี้ครับ หากใครสนใจอยากจะพัฒนาอยู่เหนือความกลัวตัวเอง ผมแนะนำให้ทำความเข้าใจบทความนี้ก่อน ความกลัวคืออะไร? เกิดจากอะไร?
#7 ทำตัวบวก นอกจากจะเปลี่ยนความคิดเป็นแง่บวกแล้วเราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของเราด้วย ความคิดกับการกระทำเป็นสองอย่างที่ส่งผลต่อกันและกัน
ความคิดส่งผลต่อการกระทำ แต่การกระทำก็ส่งผลต่อความคิด นอกเหนือจากจะพยายามเปลี่ยนความคิดต่อคนอื่นเป็นแง่บวกแล้ว เราต้องเปลี่ยนคำพูดของเราเป็นแง่บวกด้วย เริ่มให้กำลังใจคนอื่น เริ่มใส่ใจกับสิ่งที่คุณทำ แล้วคุณก็จะเห็นว่าผลลัพธ์หลายอย่างจะดีขึ้น
#8 เป็นคนใจดีและมีน้ำใจให้มากขึ้น ถ้าหัวข้อนี้มันฟังดูน้ำเน่าไปก็ข้ามไปเลยก็ได้ครับ แต่การแสดงน้ำใจให้คนอื่นและมีน้ำใจให้ตัวเองจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
คนไทยส่วนมากเวลาเจอปัญหาก็เข้าวัดทำบุญ ซึ่งก็เป็นหนึ่งตัวอย่างของ ‘การเป็นคนดี’ เหมือนกันครับ แน่นอนว่าความดีหรือน้ำใจที่คุณอยากให้คนอื่นก็ขึ้นอยู่กับความถนัดหรือความชอบของคุณเลย กฏของความดีก็คือเราให้คนอื่นก่อน แล้วเราก็จะรู้สึกดีขึ้น พอเรารู้สึกดีขึ้น เราก็จะมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูครับ
เรื่องของการให้และ ‘การสร้างความสุขด้วยการมอบความสุข’ เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่น่าสนใจมาก ลองศึกษาเพิ่มได้ที่นี่นะครับ 5 ประโยชน์ของการช่วยเหลือผู้อื่น
#9 เตรียมตัวตลอดเวลา มันคงยากที่จะมั่นใจในตัวเองถ้าเรารู้สึกว่า ‘ความรู้’ ของเราไม่มากพอหรือเรายังไม่เก่งพอ ยิ่งคุณเป็นคนที่ตั้งความคาดหวังกับตัวเองเยอะคุณก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจมากขึ้น หากคุณรู้สึกแบบนั้นวิธีที่ตอบตรงคำถามมากที่สุดก็คือการเตรียมตัวและฝึกซ้อมให้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นการสอบ หากเราไม่ได้อ่านหนังสือมาเราก็คงรู้สึกไม่มั่นใจในห้องสอบ แต่ถ้าเราอ่านหนังสือมาเยอะ ทำการบ้านครบทุกอย่าง เราก็คงรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นในห้องสอบ หากเราคิดว่าชีวิตก็คือการสอบอย่างหนึ่งเราก็ควรเตรียมตัวไว้ก่อนครับ
#10 รู้หลักการของตัวเองและดำเนินชีวิตตามนั้น คุณมีหลักการในการดำเนินชีวิตไหมครับ อะไรสำคัญที่สุดสำหรับคุณ หากคุณไม่รู้มันก็ง่ายที่คุณจะรู้สึกหลงทางอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่นคุณจะขับรถอย่างมั่นใจได้อย่างไรถ้าคุณไม่รู้จักถนนแล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางอยู่ที่ไหน
สำหรับผมแล้วผมมีหลักการเป็นของตัวเองและมีสิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญมาก ซึ่งส่วนมากแล้วหากมีการตัดสินใจอะไรที่ขัดกับหลักการพวกนี้ ผมก็พยายามที่จะไม่ทำครับ (แต่บางครั้งก็ทำไม่ได้) เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคุณยังไม่มีหลักการดำเนินชีวิตผมก็แนะนำให้ลองคิดเรื่องหลักการของตัวเองดู แล้วลองคิดดูว่าคุณอยากใช้ชีวิตตามหลักการของตัวเอง หรือจะเชื่อในหลักการแต่ไม่ทำตามก็แล้วแต่
#11 พูดให้ช้าลง เป็นอีกหนึ่งข้อที่เริ่มทำได้ง่ายแต่มีผลมากกว่าที่เราคิด การพูดให้ช้าลงจะทำให้คนรอบข้างมองเราว่าเป็นคนสุขุมมากขึ้น คนที่มีอำนาจ เช่นนายกหรือประธานาธิบดีก็ใช้วิธีนี้ในการสร้างความเคารพจากผู้ฟังครับ การพูดช้าแปลว่าเราให้เวลากับตัวเอง และเป็นการแสดงความมั่นใจในตัวเองอย่างหนึ่ง
คนที่พูดเร็วคือคนที่ต้องการให้คนอื่นรีบฟังให้จบ ส่วนมากก็เพราะว่าเค้าไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เค้าพูดน่าฟังหรือมีคุณค่าที่ต้องฟัง ถึงแม้ว่าคุณจะรู้สึกไม่มั่นใจว่าคุณพูดช้าลงแล้วจะดีขึ้น ผมก็แนะนำให้ลองดูก่อนครับ ลองพูดให้ช้าลงนิดหน่อยซักหนึ่งอาทิตย์และลองสังเกตุดูว่าคนรอบข้างคุณตั้งใจฟังคุณมากขึ้นแค่ไหน แน่นอนว่าอย่าพูดช้าจนเว่อร์เกิน ทำอะไรให้มีความพอดีนะครับ
#12 ยืนให้ตรง ผมได้อธิบายไว้แล้วว่าการกระทำก็สำคัญพอๆกับความคิดของเรา หากเราทำตัวมั่นใจในตัวเองเราก็จะรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย การนั่งหลังตรง ยืนให้ตรง ทำตัวให้สูง เป็นการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองผ่านการปรับบุคลิกของเราแบบง่ายๆ นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วมันยังทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย คุณจะรู้สึกว่าตัวเองสูงขึ้นดูดีขึ้น
ซึ่งผมว่ามันก็ไม่มีข้อเสียอะไรเลยนะครับวิธีนี้ เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่คุณจับได้ว่าตัวเองโก่งหลังตอนเดินหรือตอนนั่งก็ให้เริ่มแก้บุคลิกส่วนนี้ด้วย
#13 เพิ่มความเก่งให้ตัวเอง หากเราไม่มั่นใจในตัวเองเพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ คำตอบก็คือเราก็พยายามให้เก่งขึ้นก็เท่านั้น ข้อนี้จะต่างกับข้อการเตรียมตัวเพราะการเตรียมตัวจะเป็นส่วนของ ‘ความรู้’ เช่นการเข้าห้องสอบ แต่ความเก่งจะเป็นส่วนของ ‘ทักษะ’ มากกว่า
อย่างไรก็ตามเราก็สามารถสร้างทักษะได้จากการศึกษาและฝึกซ้อมแบบค่อยเป็นค่อยไป หากเราอยากเป็นนักเขียนเราก็อาจจะเริ่มจากการเขียนบทความเล็กๆน้อยๆก่อนที่จะเริ่มเขียนหนังสือหนึ่งเล่ม ยิ่งเราฝึกมากเท่าไรเราก็ยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น แบ่งเวลาให้ตัวเองวันละ 30นาทีหรือหนึ่งชั่วโมงเพื่อฝึกทักษะที่คุณชอบ
สำหรับคนที่สนใจวิธีที่เราจับต้องได้ ลงมือทำได้จริง ลองอ่านบทความสองเรื่องนี้ดูนะครับ แผนการพัฒนาตัวเองที่ได้ผลจริง และ วิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
#14 ตั้งเป้าหมายเล็กที่สามารถทำได้ คนส่วนมากตั้งเป้าหมายไว้ใหญ่โตมหาสารจนไม่สามารถทำได้ (หรือใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะทำได้) จนหมดกำลังใจหมดความมั่นใจไปเสียก่อน หากเราตั้งเป้าหมายระยะสั้นให้เล็กลง โอกาสที่เราจะทำได้ก็จะมีมากขึ้นแล้วเราก็จะตั้งใจทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริงมากขึ้นด้วย ผมไม่ได้บอกว่าเราห้ามตั้งเป้าหมายใหญ่
แต่ถ้าเราอยากจะทำเรื่องยิ่งใหญ่เราต้องรู้จักวิธีแตกเป้าหมายใหญ่ออกมาเป็นเป้าหมายเล็กหลายอย่างก่อน เช่นหากเราอยากจะเก็บเงินสิบล้านภายในสิบปี เราก็ควรจะตั้งเป้าเก็บเงินห้าแสนในหนึ่งปีก่อนเป็นต้น
#15 ปรับนิสัยเล็กๆน้อยๆ การปรับนิสัยหรือความเคยชินใหญ่ๆอย่างการเลิกบุหรี่อาจจะเป็นสิ่งที่ยาก แต่ถ้าเราเริ่มปรับแค่นิสัยเล็กๆน้อยๆเช่นการตื่นให้เร็วขึ้น 10 นาที หรือการเล่นเฟสบุ๊คให้น้อยลงตอนเย็น แล้วเราเลือกที่จะทำแบบนี้ไปตลอดหนึ่งเดือน เราก็จะรู้สึกว่าการปรับตัวมันง่ายขึ้นเยอะ คุณจะสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้มากขึ้นและจะรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
#16 โฟกัสที่การแก้ปัญหา หากคุณเป็นคนที่ชอบบ่นหรือชอบกังวลกับปัญหาเกิดเหตุให้ลองเปลี่ยนโฟกัสดูครับ การโฟกัสเรื่องการแก้ปัญหาแทนที่จะโฟกัสเรื่องปัญหาเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้ดีเลยครับ
แทนที่จะคิดว่าเราเป็นคนอ้วนหรือคนขี้เกียจ ให้ใช้เวลาคิดวิธีลดความอ้วนหรือวิธีโน้มน้าวตัวเองดีกว่า หากคุณมีปัญหาหลังจากนี้แทนที่จะคิดว่า ‘แย่จัง’ ให้เปลี่ยนเป็น ‘เราจะแก้วิธีนี้ได้ยังไงดี’ นอกจากคุณจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้นแล้ว อาชีพการงานของคุณอาจจะไปได้ไกลขึ้นด้วย
#17 ยิ้ม อีกหนึ่งเทคนิคที่ฟังดูน้ำเน่าแต่มันใช้งานได้จริง การยิ้มทำให้สมองคุณหลั่งฮอร์โมนความสุขและทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่นใจในตัวเองที่ดีมากเลยครับ ใช้พลังงานน้อยลงทุนต่ำแต่ผลตอบแทนสูงลิ่ว
#18 อาสาสมัคร บทเรียนเสริมจากการ ‘เป็นคนใจดีและมีน้ำใจให้มากขึ้น’ หากเป็นช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงวันเสาร์อาทิตย์แทนที่จะใช้เวลานั้นเพื่อตัวเองก็ให้ลองเสียสละเวลามาทำอะไรเพื่อสังคมดูบ้าง การใช้เวลาเพื่อคนอื่นอาจจะสร้างความสุขในชีวิตที่คุณไม่เคยคิดมากก่อนก็ได้ครับ และถ้าคุณคิดว่าคุณได้สร้างประโยชน์หรือความดีมากขนาดนี้ คุณจะไม่รู้สึกชื่นชมตัวเองได้ยังไง
#19 ขอบคุณ ผมเชื่อในพลังขอบการขอบคุณและคำชื่นชม หัวข้อนี้ผมเขียนไว้เพื่อเตือนให้ทุกคนหันกลับมามองชีวิตตัวเองดูอีกครั้งว่าชีวิตของคุณมีโอกาสดีๆและคนดีๆในชีวิตเยอะแค่ไหน เราสามารถมีความสุขกับสิ่งเล็กๆน้อยๆได้หากเราเข้าใจความสำคัญของสิ่งพวกนี้ และความคิดแบบนี้จะทำให้เราเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนและมองตัวเองในแง่ดีมากขึ้่นด้วย
#20 ออกกำลังกาย ถึงแม้ผมจะเป็นคนไม่ค่อยมีเวลาไปออกกำลังกายบ่อย แต่ผมก็ยังเชื่อในความวิเศษของการออกำลังกายและเชื่อในผลดีที่มันมีต่อร่างกายกับฮอร์โมนแห่งความสุขของมนุษย์
ข้อดีของการออกำลังกายมีเยอะมากครับ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าสุขภาพไม่ดี หุ่นไม่ดี มีความคิดในแง่ลบ การแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดในระยะสั้นและระยะยาวก็คือการไปออกกำลังกายเสียเหงื่อซักหนึ่งชั่วโมง เพียงแค่คุณทำไม่กี่วันคุณก็จะเห็นผลของมันแล้ว
#21 ความรู้และความมั่นใจ นอกเหลือจากการเตรียมตัวและการสร้างทักษะให้ตัวเองแล้ว การเพิ่มความรู้ก็คืออีกหนึ่งวิธีสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง
จุดเริ่มต้นของความไม่มั่นใจในตัวเองก็คือความกลัว และความกลัวของมนุษย์ทั้งหมดมาจากการไม่รู้ครับ ยิ่งคุณรู้เยอะคุณยิ่งมั่นใจได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี และอะไรถูกหรือผิด ข้อดีของยุคนี้ก็คือความรู้สามารถหาอ่านได้ง่ายครับ จะศึกษาบทความผ่าน Google หรือดูวิดิโอสอนทาง Youtube ก็ได้ ขอแค่คุณมีคำถาม อินเตอร์เนตก็พร้อมที่จะตอบเสมอ
#22 เริ่มทำสิ่งที่คุณเคยขี้เกียจทำ ถ้าคุณมีงานหรือหน้าที่อะไรที่คุณผลัดมาหลายอาทิตย์แล้ว หรือมีกิจกรรมอะไรที่คุณอยากทำแต่ไม่มีเวลาทำซักที ผมแนะนำให้เริ่มทำมันเลยครับ อาทิตน์ไหนที่ว่างให้บังคับตัวเองให้เริ่มทำสิ่งเหล่านั้นให้ได้ หรือจะตื่นเช้ามากขึ้นหนึ่งชั่วโมงเพื่อหาเวลาเพิ่มก็ได้ คุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมาก
#23 อย่าอยู่เฉยๆ การทำอะไรก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แน่นอนว่าการทำอะไรใหม่ก็มีความเสี่ยงที่เราจะล้มเหลวเสมอ แต่การล้มเหลวก็เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งเช่นกัน หากเราไม่ลองทำอะไรใหม่ๆเราก็จะไม่เรียนรู้
หากคุณอ่านมาถึงขั้นตอนนี้ได้แปลว่าคุณก็คงอยากพัฒนาความมั่นใจในตัวเองมากใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นก็ถึงเวลาที่จะเลิกกลัวการล้มเหลวและหันมาทำอะไรซักอย่างดู จะไปออกกำลังกาย เรียนหนังสือ พัฒนาทักษะอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณเข้าใกล้ความฝันของคุณมากขึ้น
#24 ทำอะไรเล็กๆน้อยๆ คล้ายกับข้อการตั้งเป้าหมายและการปรับนิสัยเล็กๆน้อยๆ ผมคิดว่าถ้างานหรือหน้าที่ที่เรารับผิดชอบอยู่มันใหญ่เกินไปหรือให้ผลในระยะยาวมากเกินไป เราก็ควรเปลี่ยนมาดูเป้าหมายขนาดเล็กที่จะสร้างกำลังใจให้เราได้ดีกว่า หรือเป็นเป้าหมายที่วัดผลระยะสั้นได้มากกว่า เราควรเรียนรู้ที่จะย่อยงานใหญ่ให้เป็นขั้นตอนเล็กที่สามารถทำได้จริง
พอเราเก็บความสำเร็จเล็กน้อยพวกนี้ไปเรื่อยๆเราก็จะรู้สึกว่าอีกไม่นานเป้าหมายใหญ่ของเราก็จะสำเร็จแล้ว หากคุณทำได้ความมั่นใจในตัวเองของคุณจะพุ่งสูงมาก
#25 จัดโต๊ะทำงาน วิธีสุดท้ายผมขอเขียนอะไรที่มันง่ายและทุกคนสามารถทำได้ตอนนี้เลย (หรือถ้าโต๊ะคุณรกมากก็อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด 555) การจัดโต๊ะก็เหมือนกับการจัดให้งานและความรับผิดชอบของคุณมาอยู่ใต้ความควบคุมของคุณอีกครั้ง โต๊ะทำงานคือ ‘สิ่งแวดล้อม’ หลักของการทำงานคุณและเป็นปัจจัยที่คุณสามารถควบคุมได้ 100% ถ้าคุณเริ่มรู้สึกแย่กับตัวเอง ให้หันมาจัดโต๊ะดูครับ
บทความเกี่ยวข้องที่เราแนะนำ
- ความสุขที่แท้จริงคืออะไร? นิยามความสุขที่แท้จริง
- 40 วิธีทําใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน
- ตัดสินใจเองไม่ได้ – โรคไม่กล้าตัดสินใจ และ วิธีแก้ความลังเล
บทความล่าสุด
การจัดโต๊ะคอมให้สวยถูกใจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน...
ในมุมมองหนึ่ง ‘ลูกคนกลาง’ ดูเหมือนจะต้องแบกรับภาระทางใจอันหนักอึ้ง...